แม้ว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่สำหรับตลาดเบียร์ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี หรือประมาณเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาตลาดรวมเบียร์มีอัตราการเติบโตสูงถึง 5.7% ขณะที่ตลาดรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในภาวะทรงตัว ซึ่งตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตดีที่สุด คือ ตลาดเบียร์เมนสตรีม หรือตลาดเบียร์ระดับกลาง ตามด้วยตลาดเบียร์พรีเมียม หรือตลาดเบียร์ระดับบน  และตลาดเบียร์เซฟวิ่ง หรือตลาดเบียร์ระดับล่าง ซึ่งปีนี้ยังอยู่ในภาวะติดลบสูงถึง 20% เนื่องจากมีผู้เล่นรายเดียว คือ เบียร์อาชา

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเบียร์เมนสตรีมยังเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด และมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 94% คือ มีผู้เล่นในตลาดจำนวนมาก และมีผู้เล่นรายหลักเป็นรายใหญ่ ประกอบด้วย เบียร์ลีโอ เบียร์สิงห์ และเบียร์ช้าง ส่วนตลาดพรีเมียมที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีก็เพราะ กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ

จากการขยายตัวที่ดีของตลาดเบียร์พรีเมียม ส่งผลให้เบียร์ไฮเนเก้น เป็นผู้นำตลาด ด้วยการมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 80% ต้องออกมาตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาด ด้วยการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปลายปี ซึ่งถือเป็นหน้าขายสินค้าของกลุ่มสินค้าเบียร์

        สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ ไฮเนเก้น นำมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีนี้ คือ การเปิดตัวโปรเจ็ค “Star Delivery Service” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “Heineken Open your celebration 2017” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของตลาดเบียร์พรีเมี่ยมภายใต้แนวคิด Open Your World ที่จะยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและทำให้โมเมนต์แห่งการเฉลิมฉลองเต็มไปด้วยความสุข สนุก และประทับใจแบบไม่ซ้ำใคร ภายใต้กลยุทธ์ Seasonal Marketing 

น.ส.ภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้นและสตรองโบว์ ในกลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวว่า ตลาดเบียร์พรีเมี่ยมมีแนวโน้มการเพิ่มจำนวนของผู้เล่นหน้าใหม่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เบียร์ไฮเนเก้น ต้องมุ่งสร้างความโดดเด่นและแตกต่างเหนือคู่แข่ง  ด้วยการดึงเอากลยุทธ์ Seasonal Marketing หรือ Celebrate Marketing มาเป็นแกนหลักในการสร้างรูปแบบของการทำการตลาดในช่วงปลายไตรมาสที่ 4 นี้  เพื่อสร้างความแตกต่างของการสังสรรค์และตอบโจทย์ในไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน 

ในส่วนของแคมเปญ “Heineken Open your celebration 2017” ที่ได้เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์การทำตลาดที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยผ่าน 2 โปรเจ็คหลัก ได้แก่ การกลับมาอีกครั้งของ Behind the Star Experience (Multisensorial Exhibition) ที่จะจัดขึ้น ณ ลานเบียร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงตลอดเดือนธันวาคมนี้ เพื่อตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ที่พลาดชมในกลางปีที่ผ่านมา โดยพร้อมเปิดประสบการณ์ย้อนรอยต้นกำเนิดแห่งความสำเร็จในการก้าวสู่แบรนด์เบียร์คุณภาพระดับโลกที่ทุกคนให้การยอมรับอีกครั้ง ด้วยเทคนิคการนำเสนอแบบมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้  ยังได้มีการขยายพื้นที่นั่งในโซนสตาร์เสิร์ฟ (Star serve) ตอบโจทย์ผู้บริโภคสาวกแบรนด์ไฮเนเก้นในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้ด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีคนเข้าร่วม 50,000 คน ตลอด 1 เดือน และอีกหนึ่งโปรเจ็คล่าสุดกับ “Star Delivery Service” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเมืองไทยกับการจัดส่งประสบการณ์ปาร์ตี้แบบส่งตรงถึงบ้าน ในรูปแบบ Private Party Provider สร้างความสะดวกสบายในการบริการที่แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค ตอบรับในไลฟ์สไตล์กับเทรนด์ของฟู้ด เดลิเวอรี่ ที่สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน 

ล่าสุดไฮเนเก้นได้จับมือร่วมกับร้านอาหาร “เกรฮาวด์” เพื่อเสริมทัพความอร่อยอย่างมีสไตล์ ส่งตรงปาร์ตี้ในรูปแบบ Private Party Provider แบบครบครัน คือ พร้อมเสิร์ฟ (ดราฟท์เบียร์จากไฮเนเก้น) – พร้อมกิน (เมนูอาหารสุดฮิตจากร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่) – พร้อมสนุก (อุปกรณ์ตกแต่งสำหรับงานปาร์ตี้) โดยมีแพ็คเกจให้ลูกค้าได้เลือกทั้งหมด 2 รูปแบบ เริ่มจากราคาเริ่มต้นที่ 6,500 บาท (สำหรับจำนวน 8 – 10 คน) ไปจนถึงราคา 10,500 บาท (สำหรับจำนวน 15 คนขึ้นไป) ซึ่งแต่ละแพ็คเกจจะมีความแตกต่างกันไป ทั้งในด้านจำนวนเมนูอาหาร ปริมาณเครื่องดื่ม และอุปกรณ์ตกแต่งปาร์ตี้

ด้านนายกฤตินาท อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์เกรฮาวด์ กล่าวว่า การได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้นำแบรนด์พรีเมียมเบียร์อย่างไฮเนเก้นในครั้งนี้  ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่า Star Delivery Service จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่สร้างสีสันและเติมเต็มช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองให้ทุกคนได้เต็มอิ่มจากทั้งอาหารตา ผ่านงานดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงรสชาติอาหารที่อร่อยกับเมนูซิกเนเจอร์ประจำร้านเกรฮาวด์ พร้อมดื่มด่ำเบียร์ระดับพรีเมี่ยมจากไฮเนเก้นได้พร้อมกันจากที่ไหนก็ได้ที่ต้องการ 

จากการวางกลยุทธ์ทั้งในด้าน Innovative idea บวกกับการหาพาร์ทเนอร์มาร่วมสร้างความสำเร็จในแคมเปญ Heineken Open your celebration 2017 ในครั้งนี้  ไฮเนเก้น คาดหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านการสื่อสารทางการตลาดภายใต้แนวคิดของแบรนด์กับคำว่า “Open Your World” เพื่อยกระดับประสบการณ์ในทุกด้านของไลฟ์สไตล์ พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้ครบทุกมิติของสีสันในทุกโมเม้นท์ที่จะสอดคล้องกับกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์ทั้ง On ground และ Online ตามแผนที่วางไว้

หลังจากเปิดตัว Star Delivery Service และการกลับมาของ Behind the Star Experience ภายใต้แคมเปญ Heineken Open your celebration 2017 ไฮเนเก้น คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างแบรนด์ให้มีความโดดเด่น และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ พร้อมเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค (Reach) ได้ถึง 15 ล้านคน ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของ ไฮเนเก้น ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง พร้อมกล้าที่จะเริ่มต้นในความแตกต่างตลอดเวลา โดยในส่วนของการจับมือกับเกรฮาวด์  เพื่อให้บริการสั่งอาหารและเครื่องดื่มเดลิเวอรี่ในครั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 – 31 มกราคม 2561 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. (ปิดรับออเดอร์สุดท้ายเวลา 19.00 น.) โดยลูกค้าสามารถสั่งสินค้าได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ แอดไลน์ @Stardelivery หรือติดต่อ Call Center 080-584-5842

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ไฮเนเก้น มั่นใจว่าสิ้นปีนี้น่าจะช่วยผลักดันให้มียอดขายเติบโตได้ในตัวเลข 2 หลัก สูงกว่าภาพรวมตลาดเบียร์ที่สิ้นปีนี้คาดว่าจะปิดตัวเลขการเติบโตได้ที่ประมาณ 6% หรือมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 100,700 ล้านบาท  แบ่งเป็นตลาดเบียร์พรีเมียม 5% เบียร์เมนสตรีม 94% และเบียร์เซฟวิ่ง 1% ซึ่งในส่วนของตลาดเบียร์พรีเมียม ปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท  มีไฮเนเก้นเป็นผู้นำตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดที่ประมาณ  80% หรือคิดเป็นมูลค่าเงิน 3,500 ล้านบาท ส่วนปีนี้จะสามารถปิดยอดขายได้ที่เท่าไหร่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้  เพราะต้องรอลุ้นกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงปลายปีก่อน