Key point
มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ต.ค. ขยายตัว 13.1%YOY โดยเติบโตดีในเกือบทุกกลุ่มสินค้าและตลาดส่งออกสำคัญ นำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ที่เติบโต42%YOY และ 47.0%YOY ตามลำดับ ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงเติบโตตามความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมจากไทย ที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น เช่น การส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ซึ่งขยายตัวสูงสุดในรอบ 14 เดือน ที่ 25.9%YOY ด้านการส่งออก คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 23.3%YOY ทั้งนี้ การส่งออกรวมใน 10 เดือนแรกของปีเติบโตกว่า 9.7%YOY
มูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 13.5%YOY จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 47.7%YOY ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังเติบโตกว่า15.5%YOY ตามแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้ สินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) ขยายตัวสูงกว่า11.6%YOY สะท้อนแนวโน้มการลงทุนในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้ การนำเข้ารวมใน 10 เดือนแรกของปีเติบโตกว่า 14.6%YOY
Implication
อีไอซีคาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2017 และ 2018 จะขยายตัวที่ 8.5% และ4.2% ตามลำดับ โดยภาคการส่งออกในปี 2018 จะได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยด้านปริมาณเป็นหลัก เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2018 จะส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมหลักจากไทยเติบโตได้ต่อ นอกจากนี้ อุปสงค์จากภาคครัวเรือนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักและกลุ่มอาเซียนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีนโยบายกระจายรายได้ ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยขยายตัวได้สูงต่อเนื่องจากปี 2017 อย่างไรก็ดี ภาคการส่งออกในระยะต่อไปอาจถูกกระทบจากราคาน้ำมันที่จะไม่ได้มีอัตราการเติบโตที่สูงมากนัก ทำให้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว17% ของการส่งออกทั้งหมด มีแนวโน้มเติบโตชะลอลง ในขณะเดียวกัน สินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจถูกกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทที่มีแนวโน้มหดตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอาจกระทบความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาของผู้ส่งออก
อีไอซีคาดว่ามูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2017 และ 2018 จะขยายตัวที่13.0%YOY และ 7.2% ตามลำดับทั้งนี้ การนำเข้าในปี 2018 จะเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงอาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่จะไม่ได้มีอัตราการเติบโตที่สูงมากนักเมื่อเทียบกับปี 2017
ข่าวเด่น