หุ้นทอง
แอล เอช ฟันด์ แนะลงทุนหุ้นอินเดีย เปิดขายกองทุน LH INDIA-E ดีเดย์ 27 พ.ย. -13 ธ.ค. นี้


 แอล เอช ฟันด์ มองแนวโน้มเศรษฐกิจอินเดียแข็งแกร่ง หนุนโอกาสเข้าลงทุนในตลาดหุ้น หลังดัชนีตลาดหุ้นอินเดียปรับขึ้นร้อนแรงในรอบปีนี้ เป็นโอกาสเปิดตัวกองทุนเปิด แอล เอช อินเดีย-E’ หรือ LH INDIA-E Fund เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก 27 พ.ย. – 13 ธ.ค. นี้ ชูจุดเด่นเป็นกองทุน Fund of Funds ที่เข้าลงทุนในกองทุนรวม อีทีเอฟต่างประเทศอย่างน้อย กองทุน ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย

 

 

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์  เปิดเผยว่า แอล เอช ฟันด์ มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศอินเดีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ และเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศในภูมิภาคเอเชียต่อไป โดยคาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินนโยบายของนาย Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดียคนปัจจุบัน ที่มีนโยบายพัฒนาอินเดียเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและบรรยากาศภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย

โดยภาพรวมดัชนี BSE SENSEX ของอินเดียในปีนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างร้อนแรง โดยในรอบปีนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 30,000 จุดและปัจจุบันอยู่ที่ระดับกว่า 32,000 จุด โดยมีปัจจัยมาจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี  แนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและความเชื่อมั่นต่อภาคการลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุน ดังนั้น  แอล เอช ฟันด์ จึงมองว่าเป็นจังหวะดีที่จะกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย

กรรมการผู้จัดการ แอล เอช ฟันด์ กล่าวว่า จากปัจจัยบวกดังกล่าว ในวันที่ 27 พ.ย. – 13ธ.ค. นี้ แอล เอช ฟันด์จะเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด แอล เอช อินเดีย-E หรือ LH INDIA-E Fund (LHINDIA-E) เป็นครั้งแรก โดยเป็นกองทุนประเภท Fund of Funds ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศ ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในประเทศอินเดีย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง และกำหนดมูลค่าการซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำในครั้งแรกและครั้งถัดไป 5,000 บาท

สำหรับกองทุนดังกล่าว จะลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศอย่างน้อย กองทุน ในสัดส่วนกองทุนละไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนทั้งในและต่างประเทศในเงินฝากธนาคาร ตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมถึงหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นกองทุนเปิด 
แอล เอช อินเดีย
-E จะเข้าลงทุนในกองทุน iShares MSCI India ETF ในสัดส่วนประมาณ 75%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุ
น ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 กองทุนลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมสูงสุด อันดับแรก ได้แก่ การเงิน คอมพิวเตอร์ – ซอฟท์แวร์ สินค้าฟุ่มเฟือย พลังงาน และสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขณะเดียวกัน จะเข้าลงทุนในกองทุน iShares MSCI India Small-Cap ETF สัดส่วนประมาณ 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของดัชนีหุ้นขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 กองทุนลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมสูงสุด อันดับแรก ได้แก่ หมวดสินค้าฟุ่มเฟือย การเงิน อุตสาหกรรม วัสดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามลำดับ

“เราแนะนำนักลงทุนให้กระจายการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอินเดียยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกในอนาคต จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลอินเดียและพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนผ่านกองทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี” นายมนรัฐ กล่าว


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 พ.ย. 2560 เวลา : 15:21:06
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 8:46 pm