กรมธนารักษ์เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบผลิตเหรียญชุดใหม่ 9 ชนิดราคาประจำ รัชกาลที่ 10 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้หมุนเวียนในระบบปีหน้า โดยมีลวดลายเหมือนกันทุกเหรียญ เพื่อใช้แทนเหรียญหมุนเวียนเดิมจนครบใน 5-10 ปี
นางนงลักษณ์ ขวัญแก้ว รองอธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. วันที่ 19 ธันวาคมนี้ กรมธนารักษ์จะเสนอครม. เห็นชอบกฎกระทรวง ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.เงินตรา ในการผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ โดยที่ผ่านมาได้รับพระบรมราชานุญาติให้ดำเนินการผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่จะเริ่มทยอยออกใช้หมุนเวียนในระบบได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 เพื่อทดแทนเหรียญที่มีอยู่ในระบบเดิม ซึ่งจะทำให้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนในระบบแบบเดิมจะทยอยหมดไปจากระบบภายใน 5-10 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาปกติในการออกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่เพื่อใช้แทนชุดเก่า
สำหรับรูปแบบเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ เบื้องต้นทั้ง 9 ชนิดราคา ตั้งแต่เหรียญ 10 บาทไปจนถึงเหรียญ 1 สตางค์ จะมีลวดลายด้านหน้า และด้านหลังของเหรียญ เหมือนกันทั้งหมด โดยด้านหน้าเหรียญ จะเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และด้านหลังของเหรียญ จะเป็น ตราพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. ใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ และมีรูปแบบชนิดราคากำกับที่เหรียญ โดยเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่มีการใช้โลหะในการผลิตและมีขนาด รูปทรงเหมือนเหรียญชุดเก่าทุกประการ
ด้าน นายพชร อนันต์ศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุว่า เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรุ่นใหม่ จะไม่กระทบกับเครื่องที่ใช้เหรียญจ่ายแลก เช่น รถไฟฟ้า เพราะขนาด รูปทรง น้ำหนักเหมือนเดิมทั้งหมด และ คาดว่าการทยอยจ่ายแลกเหรียญชุดใหม่ น่าจะออกใช้พร้อมกันกับ ธนบัตรชุดใหม่ ซึ่งกระบวนการคงต้องรอในส่วนของ ธนาคารแห่งประเทศไทยชี้แจงความพร้อมในการจ่ายแลกอีกครั้ง และยืนยันว่าจำนวนการผลิตในปีหน้าจะคงอัตราเท่าเดิมที่ 1,800 ล้านเหรียญ
ส่วนต้นทุนในการผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ ทุกชนิดราคายังคุ้มทุน ยกเว้นเหรียญกษาปณ์ราคาต่ำกว่า 50 สตางค์ เป็นต้นไป ที่ต้นทุนการผลิตอาจจะสูงกว่าราคาของเหรียญ
ส่วนทิศทางแนวโน้มที่จะเป็นสังคมไร้เงินสดในอนาคต เชื่อว่าการผลิตเหรียญกษาปณ์จะทยอยลดลง จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 30,000 ล้านเหรียญในระบบ และในการผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ชุดใหม่ล็อตแรก กรมเชื่อว่ามีจำนวนเพียงพอที่จะใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ข่าวเด่น