ยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรงสำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ส่งผลให้ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท จากช่องว่างทางการตลาดที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก ทำให้มีผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น แม้ว่าในปีนี้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นอาจจะชะลอตัวไปบ้างตามปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคออกมาระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
จากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นต้องออกมาปรับกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ง่ายขึ้น หนึ่งในผู้ประกอบการที่ออกมาปรับกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน คือ ร้านอาหารเซ็น (ZEN)
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนของเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ ส่งผลให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Quality and Beyond” มุ่งเน้นให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพในการเสริมสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร การบริการ บรรยากาศร้าน รวมทั้งการสื่อสารทางดิจิตอลในด้านอาหาร
นอกจากนี้ ยังได้มีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ ที่ผสมผสานรสชาติจัดจ้านแบบไทยและความกลมกล่อมแบบญี่ปุ่นไว้ได้อย่างลงตัว นำเสนอในเมนูเล่มใหม่ ส่วนด้านบริการ ก็มีการสร้างแอพพลิเคชั่น GES (Guest Experience System) เพื่อตอบสนองความคิดเห็นของลูกค้า ซึ่งเปรียบเสมือนแขกของบ้าน
ด้านนายชิตพล วัฒนาเกษม ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น เรสเตอรองท์ โฮลดิ้ง กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น นับจากนี้ บริษัทจะนำเสนอ ‘คุณภาพ’ ให้แก่ผู้บริโภค ทั้งด้านการให้บริการ คุณภาพของวัตถุดิบและกระบวนการผลิต ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ร้านอาหารเซ็น ยึดมั่นเสมอมา เพราะบริษัทเอาใจใส่ในทุกความต้องการของลูกค้าประหนึ่งครอบครัวเดียวกัน
พร้อมกันนี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ยังตอกย้ำความแข็งแกร่งในด้านของการบริการ ด้วยการให้ความสำคัญกับเครือข่ายการจัดส่งอาหาร (Food Delivery) รวมทั้งบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ด้วยการเผยโฉมแอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือ พร้อมให้บริการครบวงจรสำหรับการจัดส่งอาหารถึงบ้าน และนำเสนอข้อมูลข่าวสาร รวมไปถึงโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นได้ง่ายขึ้น
แนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมีความรุนแรง หากไม่มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเป็นหลัก อาจทำให้เสียเปรียบคู่แข่งในตลาดได้
นอกจากจะให้ความสำคัญในด้านของบริการ และเมนูอาหารใหม่ๆ แล้ว ร้านอาหารเซ็น ยังมีแผนที่จะปรับปรุงร้านโฉมใหม่ให้มีความสวยงามมีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา สว่างสดใสในสไตล์ญี่ปุ่น และเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยรูปปั้นลอยตัวที่เป็นรูปปลา เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเมนูปลา และทำให้บรรยากาศร้านมีมิติเคลื่อนไหว
นอกจากนี้ ยังทำซูชิบาร์ให้เด่นมากขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถเดินมาชมเชฟทำซูชิหรือแล่ปลาได้ อีกทั้งยังฉีกภาพลักษณ์แบบเดิม ๆ ด้วยชุดยูนิฟอร์มพนักงานดีไซน์ใหม่ให้ทันสมัย แต่ยังคงความอบอุ่นในแบบของร้านอาหารเซ็น เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
นายชิตพล กล่าวอีกว่า บริษัทต้องปรับตัวต่อเนื่องเพื่อตามผู้บริโภคให้ทัน โดยขณะนี้ได้ทยอยปรับร้านอาหารเซ็นสาขาเก่าไปแล้วที่สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 สาขาพระราม 3 และล่าสุดกำลังทำการปรับปรุงที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้รูปแบบใหม่ที่เน้นให้มีความทันสมัย และสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จากเดิมจะมีความเป็นพรีเมียม และส่วนตัว ทำให้ลูกค้าอาจจะไม่กล้าเข้ามาใช้บริการมากนัก
จากผลการตอบรับที่ดีขึ้นหลังจากปรับปรุงร้านให้มีความสวยงามในภาพลักษณ์ ส่งผลให้ปี 2561 ร้านอาหารเซ็น มีแผนที่จะปรับปรุงสาขาเก่าทั้งหมด 5 สาขา พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับและเพิ่มเมนูใหม่ที่เน้นรสชาติไทยๆ อีก 10% หรือประมาณ 80 เมนู ตลอดจนเพิ่มเมนูใหม่ที่จะมาช่วยสร้างประสบการณ์ในการรับประทานแบบใหม่ๆ อย่าง ชุดมากิ ดีไอวาย, ชุดดับเบิ้ลแซลมอน และไก่เบคอนเสียบไม้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในส่วนของราคาอาหารก็ยังได้มีการปรับลดลงประมาณ 2-3% เพื่อเพิ่มความถี่ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น จากเดิมความถี่ลูกค้าที่เข้ามาเฉลี่ยที่ 6 สัปดาห์ต่อครั้ง พร้อมกับเดินหน้าขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์ดิลิเวอรี่ ของแอพพลิเคชันเซ็น เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกในการสั่งซื้ออาหารของร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น จากเดิมมีช่องทางขายผ่านไลน์แมน และฟู้ดแพนด้าอยู่แล้ว
หลังจากเดินหน้าขยายช่องทางการผ่านออนไลน์และทำการตลาดมากขึ้นภายใต้งบ 100 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการลงทุนเปิดร้านใหม่และปรับปรุงร้านเก่าภายใต้งบลงทุน 450 ล้านบาท ร้านอาหารเซ็น มั่นใจว่าสิ้นปี 2561 น่าจะผลักดันยอดขายในช่องทางดิลิเวอรี่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50-60% หรือสัดส่วนการขายเป็น 4-5% จากปัจจุบันมีสัดส่วนการขายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 2-3% ส่วนภาพรวมยอดขายในสิ้นปี 2560 นี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 8%
ข่าวเด่น