หลังจากออกมาประกาศกลยุทธ์ปรับศูนย์การค้าแต่ละแห่งให้เป็นศูนย์การค้าไลฟ์ไตล์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอ็น ก็เดินหน้าปรับศูนย์การค้าทั้งสาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการและศูนย์การค้าเก่าที่เปิดให้บริการไปแล้วให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้นทันที ด้วยการเพิ่มสินค้าและบริการใหม่ๆ เข้ามาให้บริการมากขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่เป็นศูนย์การค้าด้วยกัน และคู่แข่งที่มาจากช่องทางออนไลน์

2 สาขาสุดท้ายของปีนี้ที่ ซีพีเอ็น ทำการปรับปรุงศูนย์การค้าให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 และศูนย์การค้าเฟสติวัล ภูเก็ต ซึ่งในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ซีพีเอ็นได้ใช้งบปรับปรุงศูนย์การค้าไปทั้งหมดประมาณ 1,200 ล้านบาท ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ใช้งบปรับปรุงพร้อมเพิ่มพื้นที่ส่วนต่อขยายไปประมาณ 20,000 ล้านบาท

สำหรับโฉมใหม่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ซีพีเอ็น ได้ทำการปรับปรุงภายใต้คอนเซ็ปต์ The New Lifestyle Shopping Center where Nature meets Urban Living ไขสมการชีวิตใหม่ ผสานชีวิตคนเมืองให้ใกล้ชิดติดธรรมชาติ เปิดโซนใหม่ เพิ่มพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้และวัสดุธรรมชาติทั่วทั้งศูนย์การค้า  ให้ทุกการทำงานแบบ co-working เป็นไปได้สะดวกสบายมากขึ้น

 โดยเฟสแรกที่ได้ทำการเปิดให้บริการไปแล้วจะประกอบไปด้วยร้านค้าแบรนด์ใหม่กว่า 20 แบรนด์ ทั้งร้านอาหารและแบรนด์แฟชั่น เช่น   On the Table, MOS Burger, Texas Chicken, Pepper Lunch, แหลมเจริญ, วราภรณ์ ซาลาเปา ร่วมด้วย Anello, Skecher, Muji, Innisfree และแบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พร้อมเนรมิต Creative Gift Market บนพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม.

ส่วนโฉมใหม่ที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2561 โดยหลังจากเปิดให้บริการ ซีพีเอ็น หวังว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 จะเป็นริเวอร์แบงค์แห่งกรุงเทพฯ เทียบชั้น ย่าน “เซ้าต์ แบงค์ ลอนดอน” และ “จิมซาจุ่ย ฮ่องกง" ผสานเสน่ห์ของเจ้าพระยากับไลฟ์สไตล์นานาชาติบนถนนสายธุรกิจและการค้าระดับโลกได้อย่างแน่นอน

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ เพราะเป็นเขตที่มีกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูงและชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ เช่น ชาวสิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน  

นอกจากนี้ ยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญ มีทางด่วนเพื่อเชื่อมต่อเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองไปยังจุดอื่นๆได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเชื่อมต่อย่านธุรกิจอย่างสีลม – สาทร  (Extended Urban Lifestyle Area) และพื้นที่เลียบแม่น้ำเจ้าพระยาหรือริเวอร์แบงค์ ซึ่งเหมาะต่อการปั้นเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและธุรกิจ จึงทำให้พื้นที่นี้มีโอกาสเติบโตสูง

ยิ่งภาครัฐมีโครงการที่จะเข้ามาสนับสนุนผ่านโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเทา  (BMA Grey Line Monorail) วัชรพล-สะพานพระราม 9-ท่าพระ เชื่อมต่อทุกมุมเมือง ในปี 2022 หรือปี 2565   โดยผ่านเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ที่สถานี รัชดา-นราธิวาส  จึงทำให้ ซีพีเอ็น เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและทำการปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย  

ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโปรเจ็คของ ซีพีเอ็น เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้งบลงทุนสูงถึง 20,000 ล้านบาท  เพราะนอกจากจะมีการปรับปรุงศูนย์การค้าในพื้นที่เก่าให้มีความสวยงามและทันสมัยมากขึ้นแล้ว  ยังมีการขยายพื้นที่ตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ควบคู่ไปกับการก่อสร้างโรงแรมระดับพรีเมียม ศูนย์ประชุมนานาชาติ และแอทแทรคชั่น ใน 3 รูปแบบ ประกอบด้วย  1. เดอะ มิสทีค ฟอร์เรสต์ (The Mystic Forest) นำเทคโนโลยี มาผสมผสานกับ วัฒนธรรมไทย พื้นที่สีเขียว และกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ 2. อะควาเรีย (Aquaria) การร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียเพื่อสร้างโลกใต้ทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึง อะควาสเคป (Aqua Scape) สถานที่จัดแสดงพรรณไม้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ 3. เทลส์ ออฟ ไทยแลนด์ (Tales of Thailand) ย่านตลาดน้ำและของดีจากทั่วทุกภาค 

หนึ่งในโปรเจ็คที่ก่อสร้างแล้วเสร็จภายใต้งบลงทุน 100 ล้านบาท คือ พับบลิค เฮ้าส์ เนื่องจาก ซีพีเอ็น ต้องการให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เป็น “ครัวโลก” ที่ยิ่งใหญ่  ด้วยการเป็นศูนย์รวมอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ ในแบบแคชชวล ไดน์นิ่ง  ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบในสไตล์ บีช ฮัท พร้อมสร้างสีสันด้วยดนตรีสดและการแสดงสุดตื่นตาในทุกคืน เติมเต็มให้ภูเก็ตมีสีสันด้วยไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส สมกับการเป็น "บีช ฮอลิเดย์” แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก พร้อมต้อนรับไฮซีซั่นและ เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ด้วยการเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 24.00 น. 

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นเมืองที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวระดับโลก บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจด้วยการพลิกโฉมศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ให้เป็นศูนย์รวมอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติผ่าน พับบลิค เฮ้าส์ ซึ่งจะตั้งอยู่ บริเวณ ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 

ไฮไลท์ของ พับบลิค เอาส์  คือ อาหารและเครื่องดื่มนานาชาติหลากหลายชนิด ทั้งฟิวชั่นและออริจินัลเมนูในแบบแคชชวลไดน์นิ่ง ประกอบด้วยร้านอาหารแบรนด์ดัง อาทิ เมนู Chicken Tandoori จากร้าน Bamboo Bar & Grill, เมนู Red Hot จาก Kenny Rogers Roasters, ไอศกรีมผัด จาก Phuket Coffee , เมนู Piadina Romagnola จากร้าน Piadina และ ผัดไทย จากร้าน Pint Factory พร้อมดื่มด่ำไปกับการแสดงทุกวันและดนตรีสดทุกคืน ที่จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนแนวดนตรี

หลังจากปรับปรุงศูนย์การค้าทั้ง 2 แห่งและเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย ซีพีเอ็น มั่นใจว่า โฉมใหม่ของศูนย์การค้าทั้ง 2 แห่งจะได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากบริการใหม่ที่นำมาเสนอ ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคมาเป็นอย่างดีว่าปัจจุบันต้องการอะไร ซึ่งนอกจากจะปรับปรุง 2 สาขานี้แล้วในปี 2561 ซีพีเอ็น ก็มีแผนที่จะเดินหน้าปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่เหลือให้มีความสวยงามและทันสมัย  มีความเป็นเอกลักษณ์  เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง