หากพูดถึงปัจจัยที่กำหนดเทรนด์การออกแบบในแต่ละปี “โทนสี” ถือเป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน และกำหนดทิศทางของเทรนด์การออกแบบและผลงานศิลปะที่กำลังจะเกิดขึ้น ล่าสุด บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานเปิดตัว Trend Beyond Colours 2018 / 19 ขึ้น เพื่อประกาศ 4 โทนสีมาแรงประจำปี 2018 / 19 ที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทและเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนรูปแบบและผลงานการออกแบบในอนาคต
คุณนันทมล ตั้งดำรงธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้าน Colour Marketing Trend และ วิทยากรในงาน Trend Beyond Colours 2018 / 19 กล่าวว่า “เมื่อนิปปอนเพนต์มีการประกาศโทนสี นักออกแบบกว่า 60 ชีวิตจากทั่วเอเชีย รวมถึง Colour Hive
คัลเลอร์ฟอร์แคสเตอร์จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่พลาดที่จะมาระดมความคิดและร่วมกันค้นหาเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งโทนสีที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและนักออกแบบมากที่สุด โดยเทรนด์สำคัญที่จะขับเคลื่อนและก่อให้เกิด 4 โทนสีสุดฮิตประจำปี 2018 / 19 ประกอบด้วย Changing Space เทรนด์การออกแบบที่เน้นความโปร่งใสและการกระทบของแสง Humanised Tech เทรนด์ความสัมพันธ์ระหว่างคนและเครื่องจักร Time Alone เทรนด์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ที่ส่งผลให้คนอยากอยู่กับตัวเองมากขึ้น รวมไปถึง Life on the Edge ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่รักการผจญภัย”
“นอกจากนี้ โทนสีต่างๆ ยังเกิดจากอีกสองเทรนด์ที่กำลังมาแรงอย่าง Water World พื้นที่ที่ผู้คนอยากเข้าไปสำรวจจนเกิดเป็นเทรนด์ขึ้นมา และ Full Immersion ที่นอกจากจะเห็นได้ด้วยตาแล้ว ความตื่นเต้นที่สอดแทรกผ่านทุกประสาทสัมผัสก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เราต้องนำมาพิจารณาร่วมกันเพื่อให้โทนสีที่กำลังมานั้นตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและวงการนักออกแบบอย่างแท้จริง โดยโทนสีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาสีที่ตัวเองชอบได้สะดวกสบายมากขึ้น ในขณะที่นักออกแบบจะมีตัวเลือกที่หลากหลาย มีโทนสีที่นำไปประยุกต์ใช้ได้ง่าย และทำให้ผลงานการออกแบบมีความแตกต่างและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น” คุณนันทมล กล่าวสรุป
สำหรับ 4 โทนสีมาแรงประจำปี 2018 / 19 ประกอบด้วย:
Transient Glow โทนสีแห่งจินตนาการที่มาพร้อมกับสีสันเหนือความจริง โดยแต่ละสีในโทนนี้จะมีความเคลื่อนไหวซ่อนอยู่เพื่อดึงดูดให้ผู้พบเห็นรู้สึกอยากค้นหา ความซ้อนทับกันของความโปร่งใสและการตกกระทบกันของแสงก่อให้เกิดโทนสีที่น่าสนใจ เมื่อนำสีโทนนี้มาผสมผสานในการออกแบบจะก่อให้ผลงานที่สะดุดตา สนุกสนาน ให้ความรู้สึกเชิงบวกและกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้พบเห็น
Conscious Being ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีฉลาดมากขึ้น เส้นกั้นระหว่างความเป็นมนุษย์และหุ่นยนต์บางลงทุกที ความตื่นเต้นและวิวัฒนาการทางธรรมชาติเริ่มเข้ามาแทนที่ ปัจจัยเหล่านี้เป็นที่มาของโทนสีที่แทนตัวผู้คนในยุคดิจิทัลนี้ได้ดีที่สุด โดยโทนสีนี้จะทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกได้ถึงพลังแห่งอนาคตที่มาพร้อมกลิ่นอายของความสุขุม แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นและคาดไม่ถึงได้เป็นอย่างดี
Essential Balance โทนสีที่ให้ความรู้สึกถึงความสงบที่ผู้คนในเมืองหลวงต่างถวิลหา ความเรียบง่ายที่ผสมผสานกับกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติคือตัวแทนของโทนสีนี้ได้อย่างลงตัว ผู้พบเห็นจะรู้สึกได้ถึงความสมดุล อบอุ่น หรูหรา และขณะเดียวกันก็จะรู้สึกว่าตัวเองกำลังได้รับการฟื้นฟูจากการที่ได้เห็นโทนสีเหล่านี้อีกด้วย
Seeking Adventure โทนสีที่จะสร้างประสบการณ์การผจญภัยให้แก่ผู้พบเห็น โดยสีต่างๆ จะเป็นตัวแทนของความน่าตื่นเต้นในการผจญภัยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงินของทะเลลึก มาพร้อมบรรยากาศชวนให้ค้นหาใต้ท้องทะเล สีแดงแห่งการผจญภัยที่แต่ละเฉดสีล้วนกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นและสะดุดตาทุกครั้งที่มอง
นางสาวธัญลักษณ์ สุภาสูรย์ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกเหนือจากการประกาศ 4 โทนสีมาแรงในปี 2018 / 19 แล้ว อีกหนึ่งจุดประสงค์ของ Trend Beyond Colours คือการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้แก่ผู้บริโภค นิปปอนเพนต์ หวังว่าทั้ง 4 โทนสีจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของนักออกแบบและผู้บริโภคทุกคน และเชื่อมั่นว่าโทนสีเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เหล่านักออกแบบและสถาปนิกทั้งในประเทศและระดับโลก ก้าวออกจากกรอบความคิดเดิม เพื่อรังสรรค์ผลงานที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนสามารถประยุกต์ใช้โทนสีเหล่านี้ในงานออกแบบ เพื่อรองรับรสนิยมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคในอนาคตได้อย่างประสบความสำเร็จ”
ข่าวเด่น