ก.ล.ต. เปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2561 – 2563) มุ่งเน้นให้คนไทยได้รับคำแนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพ สนับสนุนให้มีผู้ให้บริการวางแผนทางการเงิน (wealth advice) เพิ่มมากขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว โดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้เข้าถึงตลาดทุนได้สะดวกและรวดเร็ว สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจทั้งรายเดิมและรายใหม่ให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำลง พร้อมยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลตลาดทุนให้ดียิ่งขึ้น ปฏิรูปกฎเกณฑ์ให้มีเท่าที่จำเป็น เพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุดทั่วทั้งตลาดทุน
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า
“ที่ผ่านมาการเข้าถึงตลาดทุนของประชาชนยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับคำแนะนำหรือการวางแผนทางการเงินมักจะจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้สูง อันเนื่องมาจากต้นทุนที่ต้องใช้ในการให้บริการ และช่องทางการเข้าถึงที่จำกัด ดังนั้น ก.ล.ต. จะสนับสนุนให้ประชาชนได้รับคำแนะนำและการวางแผนทางการเงิน (wealth advice) ที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความมั่งคั่งและมีเงินใช้เพียงพอหลังเกษียณ โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนารูปแบบ การให้บริการ ตลอดจนการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ลงทุน ซึ่งปัจจุบันยังอาจไม่สามารถใช้ตลาดทุน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตนเอง
นอกจากนี้ ก.ล.ต. จะสร้างทางเลือกการระดมทุนให้กับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กโดยใช้เทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนการเข้าถึงทุนในช่องทางการระดมทุนในปัจจุบัน อาทิ การเสนอขายหลักทรัพย์ผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ (crowdfunding)
สำหรับการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย ก.ล.ต. จะยังเน้นองค์ประกอบ 3 ด้านคือ การบังคับใช้กฎหมาย ความมีวินัยของบริษัทและผู้บริหาร และการสร้างแรงผลักดันของผู้ร่วมตลาด โดย ก.ล.ต. จะร่วมมือกับหน่วยงาน
และองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลและคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน
และบริษัทภายใต้การกำกับดูแลให้มีมาตรฐานที่สอดคล้องกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความรู้ พร้อมใช้สิทธิปกป้องตนเอง ในขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจและบุคลากรในตลาดทุนมีจรรยาบรรณและให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของลูกค้า” นายรพี กล่าวสรุป
ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2561 – 2563) ของ ก.ล.ต. ครอบคลุม 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1.สนับสนุนผู้ให้บริการด้านการให้คำแนะนำและวางแผนทางการเงินที่ประชาชนเข้าถึงได้และมีคุณภาพ (wealth advice for all) เป็นการสนับสนุนผู้ให้บริการด้านการให้คำแนะนำและวางแผนทางการเงิน
ที่ประชาชนเข้าถึงได้และมีคุณภาพ และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีฟินเทคเพื่อตอบโจทย์และเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนทางการเงิน
2.สร้างโอกาสในการระดมทุนสำหรับทุกหน่วยเศรษฐกิจ สร้างทางเลือกช่องทางการระดมทุนใหม่สำหรับธุรกิจ SMEs และ startups ขจัดอุปสรรคและลดต้นทุนการเข้าถึงทุนในช่องทางปัจจุบัน ส่งเสริมการ ระดมทุนของประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค
3.สร้างศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุนไทย โดยการยกระดับสมรรถนะโครงสร้างพื้นฐานรองรับ
การประกอบธุรกิจแบบดิจิทัล
4.รู้เท่าทันความเสี่ยงและกำกับดูแลได้อย่างตรงจุด ยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน
และธนาคารที่ขายหน่วยลงทุน
5.ยกระดับมาตรฐานการออกมาตรการการกำกับดูแลโดยการปฏิรูปกฎเกณฑ์ที่ใช้ในตลาดทุนให้มีเท่าที่จำเป็น มีการวิเคราะห์ต้นทุน (compliance cost) ผลกระทบ และประเมินผลสัมฤทธิ์ พร้อมทั้งสร้างระบบฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการทำงานของ ก.ล.ต. ในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่
ข่าวเด่น