มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ธ.ค. ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ที่ 8.6%YOYนำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป ที่เติบโต 32%YOY และ 15%YOY ตามลำดับ ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงเติบโตสอดคล้องกับภาคการผลิตของโลก เช่น คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ รวมถึงรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 28%YOY และ 13%YOY ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ราคาส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะ ข้าวและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวเติบโตที่ 11% และ 8% ตามลำดับ ทั้งนี้ การส่งออกที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งในเดือน ธ.ค. ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกรวมในปี 2017 เติบโตอยู่ที่ 9.9%YOY
มูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 16.6%YOY จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 27%YOY ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังขยายตัวกว่า 27%YOY ตามแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มดังกล่าว ขณะที่สินค้าทุน(ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2%YOY ทั้งนี้ การนำเข้ารวมปี 2017 ขยายตัวที่14.7%YOY
การส่งออกไทยในเดือน ธ.ค. เติบโตอย่างแข็งแกร่งสอดคล้องกับภาคการผลิตโลก ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของโลก (Global Manufacturing PMI) ที่ขยายตัวด้วยอัตราเร่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ การส่งออกไทยเติบโตสอดคล้องกับประเทศผู้ส่งออกสำคัญอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น จีน อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเวียดนาม ที่ยังคงเติบโตสูงต่อเนื่องในเดือนเดียวกัน ทั้งนี้ อีไอซีมองว่าแนวโน้มการเติบโตของภาคการผลิตโลกทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียจะส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมหลักจากไทยขยายตัวได้ต่อเนื่องในปี 2018
อีไอซีคาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 5.0% ตามแนวโน้มการเติบโตของภาคการผลิตโลก ประกอบกับราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงหลักของผู้ส่งออกไทยในขณะนี้คือ ค่าเงินบาทที่ในปัจจุบันแข็งค่าขึ้นแล้วกว่า 11.1% นับตั้งแต่ต้นปี 2017 ปัจจัยดังกล่าวจะกระทบต่อรายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกไทย ในขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินบาท (Nominal Effective Exchange Rate: NEER) ในเดือน ธ.ค. 2017 ที่แข็งค่าขึ้นกว่า 5.2%YOY ก็สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันด้านอัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้า
อีไอซีคาดว่ามูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 7.5% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น