ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ลงทุนในโครงการ อาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ  23 ม.ค. นี้ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่เข้าลงทุน 6,605 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BOFFICE”

ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BOFFICE” ในวันที่ 23 มกราคม 2561นี้ 

BOFFICE จะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าส่วนอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานระดับชั้นนำ ทำเลใจกลางสุขุมวิท อายุสิทธิการเช่าประมาณ 27 ปี มีพื้นที่ให้เช่าทั้งส่วนสำนักงาน พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จอดรถส่วนสำนักงาน โดยมีผู้เช่าทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติในหลากหลายธุรกิจ อัตราการเช่าประมาณ 99% ณ วันที่ 30 กันยายน 2560

BOFFICE เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อผู้ลงทุน โดยจัดสรรหน่วยจำนวน 515.31 ล้านหน่วย ระหว่างวันที่ 8-11 มกราคม 2561 ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 5,153.10 ล้านบาท โดยจะนำเงินระดมทุนดังกล่าวรวมกับเงินจากการกู้ยืมระยะยาว 1,720 ล้านบาท ไปลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวของโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ โดยมีบริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด บริษัทย่อยของบริษัท ภิรัชบุรี จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ บลจ. กสิกรไทย เป็นทรัสตี บมจ. ธ. กสิกรไทย และ บล. ทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมของหน่วยทรัสต์ 

นายอรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่กองทรัสต์เข้าลงทุนครั้งแรก เป็นสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานเกรด A ตั้งอยู่เขตศูนย์กลางธุรกิจสุขุมวิทตอนต้น โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์โดยตรง มีกลุ่มบริษัทภิรัชบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความพร้อมในการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้บริหารทรัพย์สิน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เช่าทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติมาโดยตลอด ทั้งนี้ BOFFICE ได้ประมาณการอัตราเงินจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยในปีแรกประมาณ 7.10% จึงเชื่อว่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าการลงทุนของผู้ลงทุน และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

BOFFICE มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยหลัง IPO ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ BOFFICE 3 ลำดับแรก ได้แก่ บจก. ภิรัชบุรี ถือหน่วยทรัสต์ 19.99% ครอบครัวบุรี ถือหน่วยทรัสต์ 8.12% สำนักงานประกันสังคม ถือหน่วยทรัสต์ 4.85% และ บมจ.ไทยประกันชีวิต ถือหน่วยทรัสต์ 4.85% 

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th  และข้อมูลทั่วไปของทรัสต์ที่ www.bofficereit.com และที่เว็บไซต์www.set.or.th

“SET…Make it Work for Everyone”