บล.โกลเบล็ก มองกรณีชัตดาวน์สหรัฐไม่น่ายืดเยื้อกดดันตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก ให้กรอบดัชนี 1,800 -1,837 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวก ชู BDMS- CENTEL-ERW-MINT –AMATA-WHA ส่วนราคาทองคำแนะขายทำกำไร ให้กรอบ 1,310 -1,350 ดอลลาร์สหรัฐ
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยเจอแรงกดดันช่วงสั้นจากวุฒิสภาสหรัฐฯไม่สามารถผลักดันกฎหมายร่างงบประมาณชั่วคราวให้เห็นชอบได้ ส่งผลให้มีการประกาศมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราว หรือ “Government Shutdown” เป็นครั้งแรกภายใต้คณะการบริหารของนายทรัมป์ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีการตกลงกันได้ในที่สุดและส่งกระทบตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก
ขณะเดียวกันธนาคารขนาดใหญ่รายงานผลประกอบการปี 60 ต่ำกว่าคาดการณ์ของConsensus เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9และที่สำคัญ fund flow มีความผันผวนมากขึ้น มีซื้อสุทธิสลับขายสุทธิ ในช่วง 1 เดือนย้อนหลังขายสุทธิ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ มีปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขการส่งออกในเดือน ธ.ค. ของกระทรวงพาณิชย์ขยายตัว 8.6% การส่งออกทั้งปี 60 เติบโต 9.9% ซึ่งดีกว่าคาด และราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงในรอบ 3 ปีส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยพยุงดัชนี
ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตาต่อเนื่อง คือ ในวันที่ 22-23 ม.ค. ญี่ปุ่น BOJ จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยและเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 26 ม.ค. และสถาบัน ZEW จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของสหภาพยุโรปและเยอรมนี ส่วนในวันที่ 24 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 25 ม.ค. ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันที่ 26 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2560
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัดประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,800 -1,837 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ชู หุ้น BDMS ได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวอย่างมากหนุนการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติ ที่มีสัดส่วน 30% หุ้น CENTEL,ERW และ MINT ได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน ธ.ค. 60 ทำสถิติสูงสุดใหม่ของประเทศไทย และหุ้นAMATA, WHA ขานรับร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.นี้
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า จากเหตุการณ์ shutdown จะสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดการเงินทั้งตลาด โดยส่วนใหญ่ให้น้ำหนักว่าสหรัฐฯจะตกอยู่ในภาวะ shutdown ในช่วงสั้น ๆ ไม่เกินสัปดาห์ เนื่องจากเชื่อว่าพรรคเดโมแครตต้องการสร้างฐานเสียงล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งหมด และ ส.ว. จำนวน 1 ใน 3 ของสภาในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ การเพิ่มเพดานหนี้จะเป็นประเด็นใหญ่ในเดือนหน้าที่จะเป็นจังหวะให้ทั้ง 2 พรรคจะเข้าสู่โต๊ะเจรจากันอย่างจริงจังมากกว่า ทำให้ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงทองคำ ไม่ตอบสนองต่อการ shutdown เท่าใดนัก ซึ่งหากสหรัฐฯต้องตกอยู่ใต้การ shutdown ตลอดทั้งสัปดาห์ ผลที่เกิดขึ้นคาดว่าจะเป็นบวกต่อทองคำเพียงระยะสั้นจากการที่เงินทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
อย่างไรก็ตาม การรีบาวน์กลับของตลาด cryptocurrency แต่นักลงทุนยังตกอยู่ในภาวะสับสนต่อแนวโน้มราคา หลังจากที่ทางการเกาหลีใต้และจีนต่างออกมายืนกรานจะควบคุมการซื้อขายอย่างใกล้ชิด ราคาที่สวิงผันผวนของสกุลเงินดิจิตอลจึงเป็นบวกต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถพักเงินบางส่วนได้จนกว่าความปั่นป่วนในตลาดเงินดิจิตอล
ดังนั้นจึงประเมินกรอบการแกว่งตัวรายสัปดาห์ระหว่าง 1,310–1,350 ดอลลาร์สหรัฐ โดยแนะนำให้เล่นรอบในกรอบดังกล่าวและเน้นปิดทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน และควรจับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรป ที่มีโอกาสจะประกาศปรับวงเงินตามมาตรการ QE และการเปิดเผยตัวเลข GDP สหรัฐฯว่าจะขยายตัวได้ในระดับ 3% หรือไม่
ข่าวเด่น