เสนาดีเวลลอปเม้นท์มุ่งสู่ “Growth Hormone”พร้อมเติบโตทุกมิติ เล็งเปิดโครงการใหม่ทั้งแนวราบ แนวสูง 18 โครงการ มูลค่าพีคสุดเป็นปฏิวัติการณ์ 23,000 ล้านบาท ตอกย้ำผู้นำตลาดด้านพลังงานทดแทนเร่งอัพเลเวลนวัตกรรมใหม่ ตั้งเป้าเป็น “The First EV ready” จับกลุ่มลูกค้าบ้าน Segment 5 - 10 ล้านบาท
.jpeg)
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า ในปี 2561 แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเพราะต่างก็มีการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาค่อนข้างมาก ประกอบกับทิศทางภาพรวมตลาดอสังหริมทรัพย์ปีนี้ปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยการส่งออกและการท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยทรงตัว และรวมถึงโครงการของภาครัฐที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและเริ่มกลับมาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมกลุ่มไฮเอนด์ เชื่อว่าในปีนี้จะมีการแข่งขันกันเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้และต่อยอดเพื่อตอบโจทย์รูปแบบการอยู่อาศัยให้ครบลูปความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ให้มากที่สุด
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีความพร้อมในการผลักดันและสร้างการเติบโต โดยมุ่งมั่นเพื่อให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย ผ่านแนวคิด “Growth Hormone” ประกอบด้วย 5 แนวทางหลัก แนวทางแรก บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงใหม่ในปีนี้ จำนวน 18 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และแนวสูง 15 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึง 23,000 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นมากเท่าตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน มีที่ดินรองรับไว้แล้ว 17 โครงการ เหลืออีก 1 โครงการอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน โดยตั้งเป้ายอดขาย 10,300 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 66% และเป้ารายได้ 5,200 ล้านบาท และตั้งงบซื้อที่ดินไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
แนวทางที่สอง จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่ผ่านมาได้นำพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์มาติดตั้งในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลาง รวมถึงการทำแอพพลิเคชั่นช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายได้ง่าย
แนวทางที่สาม บริษัทตั้งเป้าเป็น “The First EV ready” จับกลุ่มลูกค้าบ้าน Segment 5-10 ล้านบาทเจ้าแรกของไทย นำร่อง 2 โครงการ ประกอบด้วย เสนา พาร์คแกรนด์ รามอินทรา – วงแหวน และ โครงการ เสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน
แนวทางที่สี่ จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเสนา เพื่อรวบรวมข้อมูลการวิจัยต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มความสามารถในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ
แนวทางที่ห้า จะมีCorporate campaigns ที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของเสนา ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The most powerful power shot
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 5 แนวทางหลัก คือการใช้กลยุทธ์ในการบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่ากลยุทธ์ 5แนวทางนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 3,600 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 7,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยขายและโอนอย่างต่อเนื่อง มียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 6,000-7,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 50% ของยอด Backlog ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5,200 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจธุรกิจโซลาร์นั้น ในช่วงปี2561-2563 ตั้งเป้ามีรายได้อยู่ที่ 480 ล้านบาท, 500 ล้านบาท และ 520 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งบริษัทจะเน้นการรับจ้างติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น หลังจากที่โครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศยังไม่มีการประมูลโครงการใหม่ๆออกมา พร้อมกับบริษัทจะนำโซลาร์รูฟท็อปมานำเสนอให้กับลูกบ้าน เพื่อช่วยให้ลูกบ้านสามารถประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น
ส่วนธุรกิจให้เช่าและบริการ ตั้งเป้ารายได้ปี 2561-2563 อยู่ที่ 600 ล้านบาท, 800 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ของคอมมูนิตี้มอลล์ SENA FEST และอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ซอยพหลโยธิน 30 คือ SENA HOSE ซึ่งมีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมี VICTORY Property Management ซึ่งดำเนินธุรกิจนิติบุคคลบริหารอาคารชุดพักอาศัย ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการบริหารโครงการคอนโดมิเนียม
ข่าวเด่น