บอร์ด บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ TLUXE อนุมัติลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มอีกจำนวน 20 ยูนิต มูลค่ารวม 757.50 ล้านเยน หรือประมาณ 221.06 ล้านบาท ทยอยเปิด CODเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมบุ๊ครายได้ทันที ด้าน CFO “ สุวิทย์ วรรณะศิริสุข” มั่นใจรายได้ปีนี้โตก้าวกระโดด เหตุแรงหนุนจากธุรกิจพลังงาน ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง แนวโน้มสดใส สั่งเร่งขยายกำลังการผลิตเพิ่ม รองรับความต้องการของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์
นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE ผู้นำด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ในประเทศญี่ปุ่นรายแรกของประเทศไทย เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 โดยได้มีมติอนุมัติให้เข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 20 ยูนิต มูลค่ารวม 757.50 ล้านเยน (หรือประมาณ 221.06 ล้านบาท) อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 0.291831 บาทต่อเยน จากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 24 มกราคม 2561
ภายหลังจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพิ่มอีก 20 ยูนิต ในครั้งนี้ และเมื่อรวมกับ 7 ยูนิต ก่อนหน้านี้แล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งสิ้น 27 ยูนิต มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 531.7 กิโลวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 20 ปี นับจากเริ่มทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ โดยมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าไม่รวมภาษีที่ 55 เยน/กิโลวัตต์-ชั่วโมง
ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ. ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนเพิ่มในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่นตามมติบอร์ดในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการลงทุนด้านพลังงานของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และเพิ่มความมั่นคงของรายได้ อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำเพียงอย่างเดียว ส่วนเม็ดเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 757.50 ล้านเยน หรือ 221.06 ล้านบาท ในครั้งนี้ มาจากกระแสเงินสดของบริษัท
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2561 จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นการสะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจทั้งด้านพลังงานในประเทศญี่ปุ่นที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจหลักอย่างอาหารสัตว์น้ำ และ อาหารสัตว์เลี้ยง ที่มีการขยายตัวตามความต้องการของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการด้านการอุปโภคบริโภคเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ข่าวเด่น