บริษัทจัดการลงทุนจำนวน 26 แห่งประกาศเจตนารมณ์แล้ว พร้อมเดินหน้ารับการปฏิบัติตาม I code หรือหลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบันตามแนวทางสากล
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า บริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคม) รวม 26 แห่ง ได้ประกาศเจตนารมณ์โดยครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ที่จะรับเอาหลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบันมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสถาบันซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตลาดทุนมีความเชื่อมั่นว่าการมีหลักธรรมาภิบาลการลงทุนจะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือของผู้ลงทุนรวมถึงสถาบันที่รับจัดการเงินลงทุนให้กับผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ อันจะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนให้เกิดการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเป็นการประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบของบริษัทและกิจการในตลาดทุนไทย โดย บลจ. 26 แห่ง ทั้งหมดที่ได้ประกาศเจตนารมณ์แล้วประกอบด้วย บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บลจ. วรรณ บลจ. ไทยพาณิชย์ บลจ. บัวหลวง บลจ. แอสเซท พลัส บลจ. ทหารไทย บลจ. ยูโอบี บมจ. บลจ. เอ็มเอฟซี บลจ. กสิกรไทย บลจ. สยาม ไนท์ ฟันด์ แมเนจเม้นท์ บลจ. กรุงไทย บลจ. ทาลิส บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ บลจ. อเบอร์ดีน บลจ. เอเชีย เวลท์ บลจ. กรุงศรี บลจ. ธนชาต บลจ. ฟิลลิป บลจ. ทิสโก้ บลจ. บางกอกแคปปิตอล บลจ. เดนาลี เพรสทีจ บลจ. โซลาริส บลจ. ภัทร บลจ. แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล และ บลจ. แคปปิตอล ลิ้งค์
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนกล่าวต่อไปว่า ต่อจากนี้สมาคมจะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อจัดสัมมนาและเวิร์คชอปเตรียมความพร้อมเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง ตั้งแต่การกำหนดนโยบายและการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการในแต่ละข้อ นับตั้งแต่การคัดเลือก การตัดสินใจลงทุน และการติดตามบริษัทที่ลงทุนอย่างใกล้ชิดกรณีที่มีเหตุการณ์หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ โดยผู้จัดการกองทุนอาจยกระดับมาตรการติดตาม หรือร่วมมือกับผู้ลงทุนสถาบันอื่นในการติดตามดูแลบริษัทดังกล่าวแล้วผลักดันให้บริษัทแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่การเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล มีผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวมากกว่าผลตอบแทนระยะสั้น ตัวอย่างเช่น การรวมตัวกันตั้งคำถามต่อกรรมการบริษัทที่ใช้ข้อมูลภายในเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เป็นต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อผลักดันให้มีการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเข้มแข็ง สามารถสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนในกิจการที่ลงทุน ก่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ลงทุน รวมถึงการสร้างรากฐานธรรมาภิบาลในตลาดทุนไทย เป็นกลไกผลักดันให้ตลาดทุนไทยมีระดับธรรมาภิบาลที่สูงขึ้น
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การประกาศเจตนารมณ์ของ บลจ. ทั้ง 26 แห่งในวันนี้ ถือเป็นภาพแห่งความสำเร็จที่ ก.ล.ต. ประสงค์ให้เกิดขึ้นตั้งแต่มีการประกาศ I Codeเพราะเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการที่จะบริหารจัดการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อผลตอบแทนที่ดีที่สุดในระยะยาวของลูกค้า ซึ่งหลักปฏิบัติสำคัญอันหนึ่งของ I code คือ การติดตามบริษัทที่ลงทุนให้สามารถสร้างคุณค่ากิจการและผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างยั่งยืน โดย ก.ล.ต. แนะให้ผู้ลงทุนสถาบันใช้แนวคำถามจากต่างประเทศเป็นแนวทางซักถามเพิ่มเติมในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่ใกล้จะถึงนี้ โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งกับผู้ลงทุนสถาบัน ลูกค้า และตลาดทุนไทยโดยรวมอย่างยั่งยืน
ข่าวเด่น