ผลสำรวจความเชื่อมั่นซีอีโอโลก พบผู้นำธุรกิจทั่วโลกเกินกว่าครึ่ง หรือ 57% มีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 6 ปี
นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นซีอีโอโลก หรือ Global CEO Survey ครั้งที่ 21 ของ PwC ที่ใช้ในการประชุมสมัชชาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ณ กรุง ดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประจำปี 2561 ที่ผ่านมา โดยสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงจำนวนทั้งสิ้น 1,239 คนใน 85 ประเทศ ซึ่งพบว่า ความเชื่อมั่นของซีอีโอโลกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของรายได้บริษัทในปีนี้สูงขึ้นจากปีก่อน โดยพบว่า ผู้บริหารทั่วโลกถึง 57% เชื่อว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกในอีก 12 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนเกือบเท่าตัว จากปี 2560 ที่ 29% และยังเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555
ด้าน นายบ็อบ มอริตซ์ ประธาน บริษัท PwC โกลบอล กล่าวว่า "ความเชื่อมั่นของซีอีโอต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยสัญญาณของความแข็งแกร่งจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัว นอกจากนี้ ภาวะตลาดหุ้นที่กลับมาคึกคัก และการคาดการณ์จีดีพีในตลาดหลักๆ หลายแห่งของโลกที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมซีอีโอทั่วโลกต่างพากันแสดงความมั่นใจมากต่อการเติบโตในปีนี้"
ทั้งนี้ จากมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกนี่เอง ทำให้ 42% ของผู้นำธุรกิจทั่วโลกยังแสดงความมั่นใจมากต่อการเติบโตของรายได้ (Revenue growth) ของบริษัทในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขยับจากปีก่อนที่ 38% โดย 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ซีอีโอแสดงความมั่นใจมากที่สุดว่ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้น ได้แก่ เทคโนโลยี (48%) บริการทางธุรกิจ (46%) และ เภสัชกรรมและชีววิทยาศาสตร์ (46%)
แต่ปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับผู้บริหารก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยผลสำรวจพบว่า 3 อันดับปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของรายได้และสร้างความกังวลให้แก่ซีอีโอโลกมากที่สุด ได้แก่ อันดับที่ 1 กฎระเบียบที่เข้มงวดมากเกินไป (42%) อันดับที่ 2 การก่อการร้าย (41%) และอันดับที่ 3 ความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมือง และ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ (40% เท่ากัน) โดยความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการก่อการร้ายนั้น ยังถือเป็นประเด็นที่ผู้นำธุรกิจทั่วโลกกังวลเป็นอย่างมากในปีนี้ โดยความกังวลขยับขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อน (20% ในปี 2560) และยังไต่ระดับจากอันดับที่ 12 ในปีก่อนมาอยู่ที่อันดับ 2 ในปีนี้
นาย ศิระ กล่าวเสริมว่า เมื่อวิเคราะห์ถึงความเชื่อมั่นของซีอีโอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและการเพิ่มขึ้นของรายได้บริษัทในปีนี้นั้น พบว่ามีทิศทางเช่นเดียวกับซีอีโอโลก โดยผู้นำธุรกิจเอเปกถึง 60% เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะดีกว่าปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมาที่ 28% ขณะที่ 44% ของผู้นำธุรกิจเอเปก เชื่อมั่นว่า รายได้ของบริษัทปีนี้จะดีกว่าปีก่อนเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ 37%
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นภัยคุกคามธุรกิจในสายตาซีอีโอเอเปก 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ (52%) ตามด้วยอันดับที่ 2 เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (51%) และอันดับที่ 3 ภัยก่อการร้าย (46%)
"การลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ถือเป็นเรื่องที่ธุรกิจยุคนี้ต้องไม่มองข้าม เพราะไม่เช่นนั้น จะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่ง หรือผู้เล่นรายใหม่ ที่เปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงและเร่งลงทุนเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้ เรามองว่า การพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถด้านดิจิทัลและทักษะสะเต็มของพนักงาน จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยดึงศักยภาพแฝงของพนักงานออกมาช่วยพัฒนาองค์กรให้เติบโตได้" นาย ศิระ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น