เอสซีฯ รุกลุงทนธุรกิจอสังหาฯ ในสหรัฐอเมริกา ตั้งบริษัทเอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น โชว์ปี 60 ทำสถิตินิวไฮทั้งยอดขายรวมและแนวราบเติบโตกว่า 30% กำไรสุทธิ 1,256 ล้านตั้งเป้ายอดขายและรายได้ 17,000 ล้าน เติบโต 36%

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ SC ALPHA Inc.(บริษัท เอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น) ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
.jpg)
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2561 ตั้งเป้ายอดขาย และรายได้ 17,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11% และ 36% ตามลำดับ โดยในปีนี้จะเปิด 19 โครงการใหม่ มูลค่า 19,000 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมีนาคมเปิด 2 โครงการใหม่ ได้แก่ 1. โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน เป็นคอนโดมิเนียม ใกล้ BTS สถานีรัชโยธินเพียง 150 เมตร บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อาคารสูง 21 ชั้น จำนวน 261 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท โดยได้จัด Speed Online Booking 3 ชั่วโมง! ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ที่ https://booking.scasset.com เพื่อรับราคาดีที่สุดพร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะวันที่ 6 มีนาคม ก่อนเปิดพรีเซลส์ 10-11 มีนาคมนี้
.jpg)
2. โครงการเพฟ บ้านโพธิ์-ฉะเชิงเทรา บ้านสไตล์โมเดิร์นทำเลติดถนนสุขุมวิท ฉะเชิงเทรา 314 บนพื้นที่กว่า 36 ไร่ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท จำนวน 144 หลัง ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณใจกลางหรือเรียกได้ว่า HUB ของเส้นทางโลจิสติกระหว่าง กทม. - ภาคตะวันออก โดยเป็นจุดศูนย์กลางของการขนส่งสินค้าต่างๆ และ ใกล้โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในอนาคต สถานีกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา อีกทั้งใกล้นิคมอุตสาหกรรมและแวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคสำคัญต่างๆ จะพรีเซลส์ในวันที่ 24-25 มีนาคม
.jpg)
ทั้งนี้ บริษัทมีโครงการที่เปิดขายทั้งหมดรวม 58 โครงการ มูลค่ากว่า 56,000 ล้านบาท เป็นโครงการต่อเนื่อง 39 โครงการ มูลค่ารวม 37,000 ล้านบาท และโครงการเปิดใหม่ 19 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมานั้น ยอดขายทำสถิติใหม่ ทั้งยอดขายรวมเท่ากับ 15,280 ล้านบาท เติบโต 32% หากเทียบกับปีที่ผ่านมา และยอดขายแนวราบ 10,547 ล้านบาท เติบโต 33% กลุ่มที่เติบโตมากที่สุด คือ บ้านเดี่ยวระดับราคาน้อยกว่า 5 ล้านบาท หรือแบรนด์ PAVE เติบโต 189% ส่วนบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีส่วนแบ่งการตลาด อันดับ 1 เติบโตขึ้น 63% และบ้านเดี่ยวรวมทุกระดับราคา เป็นอันดับ 2
(1).jpg)
ด้านรายได้นั้น มีรายได้จากการดำเนินงาน 12,450 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากค่าเช่าและบริการ 850 ล้านบาท กับรายได้หลักจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 11,600 ล้านบาท มาจากรายได้จากโครงการแนวราบ 9,093 ล้านบาท เติบโต 18% หากเทียบกับปีที่ผ่านมา และโครงการแนวสูง 2,507 ล้านบาท ลดลง 58% เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่จะสร้างเสร็จพร้อมโอนได้ในปี 2561 เป็นผลให้รายได้จากการดำเนินงานลดลงเมื่อเทียบกับปี 2559 และมีกำไรสุทธิ 1,256 ล้านบาท
ส่วนยอดขายรอโอนหรือ Backlog รวม 9,703 ล้านบาท จะพร้อมโอนปีนี้ 50% อีก 50% ที่เหลือจะโอนในปี 2562-2563 ณ วันที่ 31 ธ.ค. 60 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม และหนี้สินรวมเท่ากับ 38,498 ล้านบาท และ 23,583 ล้านบาทตามลำดับ
ข่าวเด่น