การเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกไปสู่ทีวีดิจิทัล ยังสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ภาครัฐและเอกชนจะพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกระแสการดูทีวีผ่านสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นได้
นายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น ผู้บริหารช่องอมรินทร์ทีวี กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจทีวีดิจิทัลปีนี้ยังคงรุนแรงเหมือนกับที่ผ่านมา และคาดว่าจะฝุ่นตลบไปอีก 3 ปี จากการแข่งที่รุนแรง และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น หากช่องไหนมีสายป่านที่ไม่ยาวพออาจต้องหาผู้ร่วมทุนเข้ามาช่วยเหลือในด้านการเงิน ส่วนใครที่ไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนเข้ามาช่วยเหลือได้ อาจยื้อการทำธุรกิจได้อีกระยะ
ซึ่งผลกระทบที่รุนแรงคาดว่าจะทำให้เหลือผู้เล่นในตลาดไม่เกิน 12 ช่อง แม้ว่าภาครัฐจะออกมาให้ความช่วยเหลือด้วยการเยียวยาผู้ประกอบการ เพราะปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงการช่วยยื้อเวลาของผู้ประกอบการเท่านั้น
โดยประเภทของช่องที่อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ ช่องข่าว และช่องเด็ก เนื่องจากทั้งสองประเภทถูกควบคุมเนื้อหาด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ดี หากมี การแก้กฎหมายให้สามารถนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายได้ ก็อาจจะไม่เป็นธรรมกับ ผู้ประกอบการที่ประมูลช่องวาไรตี้
ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยอมรับว่า รู้สึกห่วงใยกลุ่ม ทีวีดิจิทัลที่ยังต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณา เพราะสังคมเปลี่ยนไปประชาชนดูทีวีผ่านระบบทีวีโดยตรงน้อยมาก คนจะหันไปดูยูทูป ดูทีวีในมือถือแทน และเมื่อเทคโนโลยี 5G เข้ามาจะทำให้มีความเร็ว ความเสถียรมากขึ้น 30-100 เท่า ส่งผลให้พฤติกรรมการชมทีวีเปลี่ยนแปลงไป
นายฐากร กล่าวต่อว่า กรณี ม.44 เพื่อช่วยเหลือทีวีดิจิทัลนั้น กสทช.ได้เสนอไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยเสนอไปทั้งด้านโทรคมนาคมและทีวีดิจิทัล โดยในส่วนทีวีดิจิทัลนั้นมี 3 ทางคือ เปิดทางให้คืนใบอนุญาติ ช่วยชำระโครงสร้างภาคพื้นดิน เสนอในส่วนของพักชำระหนี้ 3 ปี และคิดดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งขึ้นกับรัฐบาลว่าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร
ขณะที่บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาเดือน มกราคม ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินประมาณ 7,429 ล้านบาท ติดลบ 8.51% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเม็ดเงินประมาณ 8,120 ล้านบาท ถือเป็นการติดลบต่อเนื่องจากเดือน ธันวาคม ปี 2560 ซึ่งเดือนดังกล่าวเม็ดเงินโฆษณาหดตัวติดลบ 8.49% สำหรับสื่อที่มีเม็ดเงินโฆษณาติดลบมากที่สุด คือ สื่อนิตยสารติดลบที่ 40.88% ตามด้วยสื่อหนังสือพิมพ์ติดลบที่ 31.86% สื่อในอาคารติดลบที่ 25.64% สื่อเคเบิลทีวี/แซตเทลไลต์ทีวีติดลบที่ 23.14%
ด้านสื่อโฆษณาที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ สื่อโรงภาพยนตร์เติบโต 31.92% ตามด้วยสื่ออินเทอร์เน็ตเติบโตที่ 15.53% สื่อทีวีดิจิทัลเติบโต 15.23% และสื่อนอกอาคารเติบโต 7.95%
ข่าวเด่น