PYLON ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากปี 2561 คึกคักทั้งงานภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่เลื่อนมาจากปี 2560 หนุนธุรกิจบริษัทฟื้น ล่าสุดมีงานในมือแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2561 ด้านบอร์ดไฟเขียวปันผลงวดครึ่งปีหลังให้ผู้ถือหุ้น 0.05 บาทต่อหุ้น พร้อมทั้งอนุมัติแตกพาร์จากหุ้นละ 1 บาท เป็น 0.50 บาท

ดร.ชเนศวร์  แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย  เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 จะเป็นปีที่ดีของ PYLON เนื่องจากเริ่มทยอยรับรู้งานก่อสร้างของภาครัฐ โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่เลื่อนมาจากปี 2560 ปัจจุบัน PYLON มีงานในมือราว 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2561 จากการได้รับงานบางส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปี 2561  นอกจากนี้ โครงการภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น จากโครงการทางด่วน 2 สาย ส่วนต่อขยายสายสีส้มและสีม่วง รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน  และโครงการเอกชนจำนวนมาก ซึ่งจะหนุนรายได้ของ PYLON ในอนาคตให้เติบโตแข็งแกร่ง

สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมฐานราก  มองว่าปีนี้เติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา จากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ  รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  จึงมีความมั่นใจว่าภาครัฐจะพยายามผลักดันโครงการต่างๆให้ เกิดขึ้นอย่าง เป็นรูปธรรมได้แน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมในปี 61 ฟื้นตัวได้ และจะมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี 

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.05 บาท เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD)   วันที่ 16 มีนาคม 2561  จ่ายปันผลวันที่ 4 พฤษภาคม 2561  โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมทั้งปีจ่ายปันผลหุ้นละ 0.20 บาท นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติให้แตกพาร์จากหุ้นละ 1 บาท เป็น 0.50 บาท ภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ โดยวันที่มีผลในระบบซื้อขายจะเป็นไปตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด 

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยในงวดปี 2560 บริษัทฯ และบริษัทย่อยและมีกำไรสุทธิสำหรับปี 101.26 ล้านบาท  ลดลงจากปีก่อน 70.96 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 41.20 โดยมีรายได้จากการให้บริการ 715.76 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 347.26 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 32.67 จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,063.02 ล้านบาท  

“ผลประกอบการที่ออกมา เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและการลงทุนของภาครัฐในปี 2560 ซึ่งเลื่อนออกไป แต่คาดว่าตลาดการก่อสร้างโดยรวม และโครงการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนจะฟื้นตัวในปี 2561 เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุนและก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย ตามแนวรถไฟฟ้าที่ขยายตัว ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนใหญ่เริ่มก่อสร้าง คาดว่าปี 2561 นี้   PYLON  จะได้รับผลบวกจากโครงการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชนที่ลงมือเริ่มก่อสร้างกันแล้ว” ดร.ชเนศวร์ กล่าว