หลังจากเปิดให้บริการมากว่า 2 ปี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นที่ของศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ถึง 5 แสนตร.ม. จึงทำให้มีบริการหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แต่ที่เห็นจะถูกใจลูกค้ามากที่สุดก็น่าจะเป็นการนำร้านอาหารเข้ามาเปิดให้บริการมากกว่า 200 ร้านค้า
จากความหลากหลายดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65,000 คนต่อวัน และวันเสาร์-อาทิตย์ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคนต่อวัน ซึ่งจากจำนวนลูกค้าที่มากดังกล่าวทำให้ปัจจุบันศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตขยับรายได้ของตัวเองขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ของจำนวนศูนย์การค้าที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอ็นมีทั้งหมดในประเทศไทยตอนนี้ที่ประมาณ 32 สาขา
อย่างไรก็ดี เพื่อให้บริการภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตมีความครบวงจรมากขึ้น ซีพีเอ็น จึงได้มีการดึง "อิเกีย" แบรนด์เฟอร์นิเจอร์อันดับ 1 ของโลกมาเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กสำคัญของการดึงความสนใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ด้วยการสโตร์โมเดลใหม่ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าบนทำเลศักยภาพทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่มีการแข่งขันสูง บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะเจาะพื้นที่ศักยภาพต่างๆ ในโซนฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ด้วยการเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตในย่านดังกล่าว ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต กลายเป็นสุดยอดซูเปอร์รีจินัลมอลล์ แห่งเซ้าท์อีสต์เอเชีย เดสติเนชั่นที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในครอบครัว และเป็น Gateway ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ตะวันตกไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับจุดเด่นของ ‘อิเกีย บางใหญ่’ ที่ ซีพีเอ็น จะนำมาเติมเต็มให้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตนั้น นอกจากจะเป็นโมเดลใหม่ ซึ่งไม่เพียงใหญ่และใหม่ที่สุดในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า 50,000 ตร.ม. มีทางเข้า-ออกถึง 8 ทาง (มีทางเชื่อมกับเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต 3 ชั้น) และมีเคาท์เตอร์จ่ายเงินในทุกๆ ชั้นรวม 29 จุด ทำให้ลูกค้าช้อปปิ้งได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ หากพูดถึงการเดินทางก็ยังมีความสะดวกสบาย ด้วยระบบคมนาคมที่เชื่อมต่อทุกเส้นทาง ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง-ขนส่งมวลชน-ท่าเรือ-ถนนวงแหวน-ทางด่วน และมอเตอร์เวย์ ส่งผลให้ลูกค้าเดินทางมาใช้บริการได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าในย่านใกล้เคียงหรือจังหวัดรอบๆกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นนครปฐม สุพรรณบุรี หรือราชบุรี
นายณัฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกับ ‘อิเกีย บางใหญ่’ ในครั้งนี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ‘Big Bang Magnets’ ที่ต่างเป็นแม่เหล็กยักษ์ที่มีศักยภาพส่งเสริมซึ่งกันและกันใน 3 ด้านสำคัญ คือ 1. การขยายลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย: เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตและอิเกียมีกลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มครอบครัว ซึ่งการมาเปิดสโตร์ใหม่ของอิเกียสามารถดึงกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการขยายกลุ่มลูกค้าพื้นที่เป้าหมาย (Catchment Area) ครอบคลุมลูกค้า 13 ล้านคน ในจังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, อยุธยา, นครปฐม และสุพรรณบุรี
ด้านที่ 2 คือ ประสบการณ์ ช้อปปิ้งไร้รอยต่อ เนื่องจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต มีความโดดเด่นด้วยการตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ในแบบศูนย์กลางการใช้ชีวิต ครบครันด้วยสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ ซึ่งการมาถึงของอิเกียจะเป็นการขยายความต่อเนื่องของประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบ Seamless Shopping Experience ด้วยพื้นที่ที่เชื่อมต่อและมี Customer Journey ที่ส่งเสริมกัน สามารถใช้ชีวิต กิน ดื่ม เอ็นเตอร์เทนต์แล้วยังสามารถช้อปสินค้าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ได้ในคราวเดียว
และด้านที่ 3 คือ การสร้างแคมเปญการตลาดที่ส่งเสริมกัน โดยซีพีเอ็นจะเดินหน้าทำแคมเปญ ‘ขยายความสุข สนุกกับชีวิตใหญ่มาก’ เพื่อสร้างประสบการณ์ต่อยอดจากคอนเซ็ปต์ของศูนย์ฯ ที่อยากให้ทุกคน Have a Big Life โดยเราได้จัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับอิเกีย ดึงซิกเนเจอร์อีเว้นท์ในช่วง อิเกีย บางใหญ่เปิดตัวมาร่วมด้วยคือ งาน Ninja Maze…The Big Adventure Presented by EST COLA
นายณัฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า หลังจากดึง อิเกียเข้ามาเปิดให้บริการบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตเพิ่มขึ้นในวันจันทร์-ศุกร์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 85,000 คนต่อวัน และวันเสาร์-อาทิตย์เพิ่มขึ้นเป็น 1.3-.1.4 แสนคนต่อวันได้อย่างแน่นอน
ด้าน นายคริสเตียน รอยเคียร์ กรรมการผู้จัดการ อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า บริษัทรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เปิดประตูต้อนรับลูกค้าทุกคน พร้อมมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่มีเอกลักษณ์ที่สุด โดยการนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคชาวไทย ด้วยสินค้าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์สไตล์สวีเดนที่มีดีไซน์สวยงาม คุณภาพดีเยี่ยม ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารอร่อยที่ อิเกีย นำมาให้บริการ รวมไปถึงการจัดโซนสมอลแลนด์ (Småland) ไว้คอยต้อนรับกลุ่มลูกค้าเด็กๆ ที่เข้ามาใช้บริการ ในขณะที่ผู้ปกครองกำลังเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์
นายโทมัส ไฟรเบิร์ก ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย บางใหญ่ กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นด้วยการเข้าไปเยี่ยมเยียนบ้านของผู้คนที่อยู่อาศัยในย่านกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก พบว่า กลุ่มผู้บริโภคในย่านนี้ดีใจมากที่ อิเกีย จะมาเปิดที่ บางใหญ่ เนื่องจากย่านนี้มีการขยายตัวของประชากรอย่างรวดเร็วและมีสัดส่วนของครอบครัวคนยุคใหม่สูง ซึ่งคนกลุ่มนี้ค่อนข้างสนใจเรื่องการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ขึ้น
ดังนั้น เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาเปิดให้บริการ อิเกีย จึงได้มีการเตรียมพนักงานกว่า 450 คน เพื่อเตรียมความพร้อมให้บริการลูกค้ากว่า 7.3 ล้านคนที่อาศัยในย่านบางใหญ่และบริเวณใกล้เคียง โดยหลังจากเปิดให้บริการสาขาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย อิเกีย ก็เตรียมศึกษาแผนเพื่อเปิด อิเกีย รังสิต เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทาโซนเหนือของกรุงเทพฯ
ข่าวเด่น