หุ้นทอง
'AECS' มองหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ แนะเก็งกำไรระยะสั้น ชูหุ้นกลุ่มพลังงาน - ธนาคารพาณิชย์ น่าจับตา


บล.เออีซี (AECS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,795 จุด เหตุกังวลการประกาศรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ  ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.. คาดยังผันผวนสูงและทิศทางลงเป็นต่อ ขาดปัจจัยหนุน ด้านฝ่ายวิจัย แนะเก็งกำไรระยะสั้น ชูหุ้นพลังงาน อาทิ PTT-PTTEP และ แบงก์ อาทิ KBANK- SCB-BBL -TMB ตัวนำตลาด

 

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS  เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้(2-5 เม.)โดยทางฝ่ายวิจัยมองว่า ตลาดยังคงให้น้ำหนักกับการประกาศรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่คืนวันศุกร์ที่ 6 เม..นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ และเป็นตัวแปรสำคัญที่เฟดใช้เป็นเป้าหมายในการดำเนินนโยบายทางการเงิน โดยล่าสุด Consensus คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง ชะลอลงจากเพิ่มขึ้น 313,000 ตำแหน่ง และอัตราการจ้างงานคาดลดลงสู่ 4% จาก 4.1% ในเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมองว่า หากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่ Consensus คาดการณ์ อาจส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลต่อทิศทางการปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อที่เร็วขึ้น กดดันให้ Bond Yield สหรัฐฯ ดีดตัวสูง และทำให้เฟดพิจารณาการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อ กดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศ

ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย ช่วงเดือน เม.. มองว่า ยังขาดปัจจัยหนุนภายในประเทศ โดยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ  อีกทั้งยังถูกแรงกดดันจากปัจจัยลบในต่างประเทศ ส่งผลให้ภาคการลงทุนยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่องโดยให้กรอบการลงทุนแนวรับ และแนวต้านไว้ที่ระดับ 1,760-1,795 จุด โดยเน้นกลยุทธ์รายสัปดาห์ เหมาะสมสำหรับการกำไรระยะสั้น

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนแนะนำว่า หาก SET ปิดหลุด 1,760 จุด แนะนำให้ Stop Loss และWait &See เนื่องจากมองดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับ 1,730 จุด แต่หากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,760 จุด แนะนำทยอยขาย หากมีกำไร และทยอยซื้อแนะนำหุ้นกลุ่มพลังงานอาทิ  PTT, PTTEP เนื่องจากได้อานิสงส์ราคาน้ำมันยังทรงตัวสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นใหม่   

นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์  อาทิ KBANK , SCB , BBL , TMBเนื่องจากเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว หลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงในช่องก่อนหน้าจากแรงกดดันสงครามค่าฟี  พร้อมทั้งยังคงแนะนำหุ้นกลุ่ม  Domestic Play  อาทิ BCH, RJH, MINT, ERW เนื่องจากมองว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ แข็งแกร่ง สำหรับหุ้นที่เตรียมDiv. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD เม..–.. นี้ ได้แก่ KKP, AIT, SC, AP, LH


LastUpdate 02/04/2561 14:40:43 โดย : Admin
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 7:29 am