สงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐและจีน เริ่มมีสัญญาณการตอบโต้ที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่า กำลังจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างใกล้ชิด
โดยนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท. บอกว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐเป็นเรื่องที่ธปท.กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด แม้ขณะนี้ผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของไทยยังไม่มากนัก เนื่องจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์บางชนิดเท่านั้น แต่คู่ค้ารายสำคัญรายอื่น ๆ ของสหรัฐโดยเฉพาะจีน อาจออกมาตรการตอบโต้แบบเดียวกัน และอาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อห่วงโซ่อุปทาน (ซัพพลายเชน) ในภูมิภาค
ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) จัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเป็นมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเสนอให้ จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิมหนึ่งเท่าตัว ซึ่งข้อเสนอนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียดยิ่งขึ้น
โดยนายทรัมป์ ให้เหตุผลที่เสนอให้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นว่า เพราะจีนตอบโต้อย่างไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐ หลังจากสหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์และจีนก็ตอบโต้ทันควันด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในมูลค่าเท่ากัน
ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวด้วยว่า การตัดสินใจเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของรัฐบาลสหรัฐมาจากการวิเคราะห์ ความเป็นจริงอย่างรอบคอบ แต่จีนตอบโต้โดยไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ข้อมูล อีกทั้ง จีนยังเริ่มกระบวนการยื่นฟ้องต่อดับเบิลยูทีโอเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ซึ่งก่อนหน้านี้จีนได้ตอบโต้สหรัฐด้วยการจะเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ 106 รายการในมูลค่าเท่ากัน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐ เช่นถั่วเหลือง เครื่องบิน รถ วิสกี้ สารเคมี โดยจะมีผลพร้อมกับมาตรการของสหรัฐที่เปิดให้ประชาชนแสดงข้อคิดเห็นราว 2 เดือน รวมทั้งจีนได้ประกาศเรียกเก็บภาษี 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 93,690 ล้านบาท) กับสินค้า 128 รายการ จากสหรัฐ เช่น ผลไม้ ถั่ว เนื้อสุกร และไวน์ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากหลายประเทศ ซึ่งมีจีนรวมอยู่ด้วย
ด้านสื่อทางการจีนพากันประกาศว่า จีนไม่มีวันยอมจำนนต่อแรงกดดันจากภายนอกและจะเป็นฝ่ายชนะในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงบทความว่า หลังจากสหรัฐเผยแพร่รายการสินค้าจีนที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยความหนักหน่วงอย่างเท่าเทียม รวดเร็ว รุนแรงและเด็ดขาด สาเหตุที่จีนมั่นใจว่าจะชนะสงครามนี้ เกพราะตลาดผู้บริโภคของจีนมีศักยภาพที่ไม่มีประเทศใดเทียบเคียงได้
ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนจะทำให้สหรัฐเสียหายอย่างสาหัส จีนจะไม่กลัวหรือยอมถอยหากต้องทำสงครามการค้า เพราะไม่เคยยอมจำนนให้แก่แรงกดดันภายนอกมาก่อนรวมถึงครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ที่ระบุว่า การเรียกเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐเป็นการยืนหยัดต่อต้านการรังแกของสหรัฐได้อย่างน่าประทับใจ
ข่าวเด่น