นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง ผลการปฏิบัติงานรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ตามมาตรการเข้มข้นสูงสุดในทุกมิติ ระหว่างวันที่ 11- 17 เมษายน 2561 เพื่อเป้าหมายความสำเร็จรถโดยสารสาธารณะต้องเพียงพอในทุกเส้นทาง, พนักงานประจำรถระดับแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ (0), สถิติอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะลดลง และการควบคุม กำกับ การเดินรถโดยสารทุกคันทุกเส้นทาง Real-time แบบ online ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั่วประเทศ เฉพาะวันแรกของการเดินทาง (11 เมษายน 2561) กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ยังคงดำเนินการเข้มงวดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถทั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทั่วประเทศ โดยตรวจความพร้อมรถทั้งสิ้น 20,289 คัน พบข้อบกพร่องที่กระทบต่อความปลอดภัย 4 คัน เนื่องจากไม่เชื่อมต่ออุปกรณ์ GPS และมีการดัดแปลงสภาพรถ จึงได้ดำเนินการ พ่นข้อความ“ห้ามใช้รถ”ทันที และต้องนำรถเข้าตรวจสภาพหลังดำเนินการแก้ไขแล้ว ส่วนพนักงานขับรถ พบการกระทำผิด 2 ราย เป็นความผิดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน จึงได้ตักเตือนและเปรียบปรับตามข้อหาความผิดทั้ง 2 ราย ทั้งนี้มีการสแกนรถโดยสารเช่าเหมาทุกคัน ระหว่างทางบนเส้นทางหลัก16 จังหวัด รวม 19 จุด ดำเนินการตรวจความพร้อมรถโดยสาร 2,346 คัน พบรถบกพร่อง 24 คัน ความผิดส่วนใหญ่เป็นเรื่องการตกแต่งไฟหลากสี และติดไฟสปอร์ตไลท์ ดำเนินการเปรียบเทียบปรับและกำชับให้แก้ไขดำเนินการให้ถูกต้องทุกคัน ด้านคนขับ พบกระทำความผิด 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รองลงมาฝ่าฝืนนำรถออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่บันทึกสมุดประจำรถ และไม่รูดบัตรแสดงตัวตนผู้ขับขี่ ซึ่งถูกดำเนินการเปรียบเทียบปรับและบันทึกประวัติความผิดไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะแล้วทุกราย

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11- 17 เมษายนนี้ กรมการขนส่งทางบก เพิ่มระดับความเข้มข้นสูงสุดในทุกมิติ และใช้มาตรการสร้างความปลอดภัยทางถนน 5 ด้าน โดยเน้นความครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การบริหารจัดการและการดำเนินการเข้มข้นทุกพื้นที่ทั่วไทย ในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่แบบบูรณาการเข้มข้น จริงจัง, มาตรการดูแลความปลอดภัยและควบคุมการให้บริการตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทาง ทั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทุกแห่ง และจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารพิเศษ ที่กรมการขนส่งทางบก รวมถึงจุดตรวจบนเส้นทางหลัก 19 แห่ง พร้อมสนับสนุน สอศ. จัดตั้งจุดให้บริการระหว่างการเดินทาง 189 จุดทั่วไทย และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เพื่อให้บริการประชาชน โดยให้มีเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมงในทุกจุด และเข้มข้นการดำเนินงานของศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 พร้อมให้บริการทุกคู่สายและทุกช่องทางการสื่อสาร ทั้งนี้เฉพาะวันที่ 11 เมษายน 2561 ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีรถโดยสารขนาดใหญ่แล้ว 88 เรื่องความผิด ส่วนใหญ่ ได้แก่ ขับรถประมาทหวาดเสียว ทิ้งผู้โดยสาร ซึ่งกรมการขนส่งทางบก จะเรียกตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการสอบสวนเพื่อพิจารณาลงโทษทุกกรณีความผิดทันที ในส่วนของมาตรการรถพร้อม คนพร้อม ตรวจความพร้อมรถโดยสารทุกคัน ผู้ประจำรถทุกคน ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมาย เข้มข้น จริงจัง ทั้งคนขับและผู้ประกอบการ ติดตามควบคุมพฤติกรรมการขับรถผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั่วประเทศ Online แบบ Real-time โดยประชาชนสามารถร่วมติดตามรถโดยสารสาธารณะ ผ่าน application“DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือไปพร้อมกัน ซึ่งทุกมาตรการดำเนินการสร้างการรับรู้ความเข้าใจเพื่อการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัย มีสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้ร่วมทางภายใต้แนวคิด “Safe Drive Save Lives ปลอดภัยทุกชีวิต ขับรถเป็นมิตรผู้ร่วมทาง”อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น