การค้าโลกปีนี้ อยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง เมื่อผู้นำของ 2 ชาติมหาอำนาจ สหรัฐฯและสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่างมีนโยบายปรับขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้ทางการค้า น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ดูแลอย่างใกล้ชิดและศึกษาผลดีผลเสียของปัญหาสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐกับจีน ว่า จะกระทบกับอย่างไรบ้าง และควรรับมืออย่างไร
โดยสนค. จะเชิญหน่วยงานด้านนโยบายเศรษฐกิจจากกระทรวงอื่นมาร่วมหารือกันช่วงหลังสงกรานต์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมกันหารือแนวทางการดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อให้ได้ทิศทางที่เป็นเอกภาพ เช่น สนค. ,สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ,สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ,สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งคาดว่าจะประชุมในช่วงปลายเดือนเม.ย.นี้
นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) กล่าวว่า สถานการณ์อาจจะบานปลายไปเป็นสงครามทางการค้าระหว่างประเทศ หากมีมาตรการตอบโต้จากประเทศที่ได้รับผลกระทบ จะเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการส่งออกไทย อยากให้จับตาความเสี่ยงภาคส่งออก ตลอดจนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น คาดสิ้นปีนี้อยู่ที่ 30-31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
สถานการณ์การตอบโต้ทางการค้า ทำให้หน่วยงานเศรษฐกิจระดับโลกก็แสดงความเป็นห่วงโดยนายโรเบอร์โต อาเซเวโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) แสดงความกังวลว่า แม้การค้าทั่วโลกจะยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง แต่ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น จากการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ระหว่างกัน อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้
ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)เตือนระหว่างการปาฐกถาในฮ่องกงว่าความตึงเครียดที่สูงขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างประเทศจีน-สหรัฐฯอาจจะทำให้ระบบการค้าของโลกเสี่ยงได้รับความเสียหายอย่างหนัก นางลาการ์ด เรียกร้องให้ประเทศต่างๆให้เลี่ยงนโยบายการปกป้องตลาดภายในของตัวเอง ขณะนี้ ระบบการค้าแบบเปิดตลาดซึ่งยึดเรื่องกฏกติกาและความรับผิดชอบร่วมกันเป็นหลักเสี่ยงถูกทำลายให้เสียหายทั้งหมด เธอแสดงความเห็นเรื่องนี้หลังสหรัฐฯและประเทศจีนมีปัญหาพิพาททางการค้าอย่างรุนแรง หลังต่างฝ่ายต่างขึ้นภาษีนำเข้าจากอีกฝ่ายหนึ่งรวมเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นางลาการ์ด ไม่ได้ตำหนิประเทศใดประเทศหนึ่งว่า เป็นต้นเหตุของปัญหาวิกฤติในขณะนี้ แต่ระบุว่าปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่า เป็นความล้มเหลวเชิงนโยบายร่วมกันของระบบการค้าทั่วโลก เธอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆลดกำแพงทางการค้าและแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการพิเศษกว่าที่ใช้แก้ปัญหาทั่วๆไป
ข่าวเด่น