กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที!!! กรณีคนขับรถแท็กซี่ทิ้งผู้โดยสารบนมอเตอร์เวย์ หลังพบความผิดร้ายแรงมียาเสพติดในครอบครอง บันทึกประวัติพร้อมดำเนินการตามกฎหมายสูงสุดเด็ดขาด ส่วนกรณีผู้โดยสารชาวต่างชาติถูกแท็กซี่สุวรรณภูมิเรียกเก็บค่าโดยสารเกิน เร่งติดตามตัว คาดโทษหนักปรับสูงสุด พิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาต!!!

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนพฤติกรรมของแท็กซี่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กในชื่อ Sukanya Saetiao โดยระบุว่าได้โดยสารรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทส-9435 กรุงเทพมหานคร คันสีชมพู จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปลายทางห้วยขวาง แต่คนขับรถไม่ใช้มาตรค่าโดยสารและขอเก็บในอัตราเหมาจ่าย 500 บาท เมื่อผู้ร้องไม่ยินยอม คนขับรถจึงปล่อยให้ผู้ร้องลงจากรถบริเวณถนนมอเตอร์เวย์นั้น กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจับกุม นายบุญช่วย พิมพ์นนท์ ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะเลขที่ 58000457 ออกให้โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ขับรถแท็กซี่ตามที่ถูกร้องเรียน ซึ่งพบความผิดเพิ่มเติมในคดีเกี่ยวกับการมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการเพิกถอนทันที เนื่องจากพฤติกรรมของนายบุญช่วย พิมพ์นนท์ เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้บริการรถสาธารณะและถือเป็นความผิดร้ายแรง กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาดสูงสุด และบันทึกประวัติความผิดไว้ทั้งที่ศูนย์ข้อมูลประวัติของกรมการขนส่งทางบกและฐานข้อมูลประวัติอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 5(2) ไม่ใช้มาตรค่าโดยสารปรับ เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1,000 บาท, มาตรา 57 เบญจ ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1,000 บาท, มาตรา 66/5 เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกิน ปรับ 5,000 บาท
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการและกวดขันจับกุมรถโดยสารธารณะที่กระทำความผิดอย่างเข้มข้นจริงจัง ซึ่งดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกันเช่นเดียวกับกรณีที่มีชาวต่างชาติโพสต์คลิประบุพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอเก็บอัตราค่าโดยสารเหมาจ่ายเมื่อผู้โดยสารปฏิเสธจึงใช้มาตรค่าโดยสาร แต่เมื่อถึงปลายทางได้เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารสูงกว่าที่ปรากฏในมาตรค่าโดยสาร มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 66/5 ฐานเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกิน ปรับ 5,000 บาท และจะพิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถเนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์จากผู้โดยสารส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ เร่งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และท่าอากาศยานสุวรณภูมิติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่มาดำเนินการตามกฎหมายสูงสุดทันที
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการประชาชนด้วยความปลอดภัย เป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะของประเทศ หากพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ปลอดภัย ระบุรายละเอียดของ รถ หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับรถ สถานที่ใช้บริการ หรือสถานที่พบเห็นเหตุการณ์ แจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง, แอพพลิเคชั่น DLT GPS, แอพพลิเคชั่น Taxi OK, Line ID “1584dlt”, เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/, E-Mail : dlt_1584complain@hotmail.com, เฟซบุ๊ก “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ”, ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ (GCC1111) ทำเนียบรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี, ส่งจดหมายหรือหนังสือร้องเรียนมายังกรมการขนส่งทางบกหรือเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเองที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน กรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น