ที่งาน NAB Show ประจำปี 2561 อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดตัวอัพเดต Adobe Creative Cloud ซึ่งจะช่วยให้มืออาชีพด้านวิดีโอสามารถใช้เครื่องมือใหม่ๆ เพื่อสร้างระบบงานอัตโนมัติและเพิ่มความรวดเร็วให้กับงานผลิตวิดีโอที่ต้องใช้เวลานาน โดยยังคงสามารถควบคุมการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ อัพเดตดังกล่าวพร้อมใช้งานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปประกอบด้วยความสามารถใหม่ๆ สำหรับการปรับแต่งสี การสร้างกราฟิก และการตัดต่อเสียง ควบคู่ไปกับเครื่องมือ VR ที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึงการประสานงานร่วมกันที่ดีกว่าเดิม การผนวกรวมเข้ากับ Adobe Stock และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่ขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei
ความต้องการวิดีโอที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้สร้างคอนเทนต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่มืออาชีพด้านวิดีโอกลับต้องเผชิญกับแรงกดดันใหม่ๆ ในการนำเสนอผลงานเพิ่มมากขึ้น แต่ใช้เวลาน้อยลง โดยต้องทำให้คอนเทนต์ดูโดดเด่น สอดคล้องกับความคาดหวังที่สูงของผู้ชม นอกจากนี้ ผู้สร้างจะต้องทำการปรับแต่งสำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าถึงที่แพร่หลาย เป็นไปตามมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการแพร่ภาพ และนำเสนอคอนเทนต์หลากหลายเวอร์ชั่นสำหรับภาษาและภูมิภาคต่างๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ต่อวิธีการทำงานของมืออาชีพด้านวิดีโอต้องอาศัยเวิร์กโฟลว์ที่มีความคล่องตัวสูง เพื่อลดเวลาที่ต้องใช้ในการผลิต ช่วยให้ผู้สร้างวิดีโอมีเวลามากขึ้นในการทุ่มเทให้กับผลงาน
นายสตีเว่น วอร์เนอร์ รองประธานฝ่ายวิดีโอและเสียงดิจิตอลของอะโดบี กล่าวว่า “ความต้องการและความรวดเร็วในการสร้างเนื้อหาวิดีโอเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน บุคลากรด้านวิดีโอได้รับแรงกดดันอย่างมากในเรื่องของเวลาการทำงาน ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ที่เปี่ยมด้วยพลังและมีประสิทธิภาพ แอพวิดีโอของอะโดบีอย่างเช่น Premiere Pro และ After Effects ช่วยให้บุคลากรเหล่านี้ได้รับประสิทธิภาพดังกล่าว พร้อมด้วยบริการใน Creative Cloud ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตรายการ บริษัทสื่อ ผู้กำกับ และยูทูบเบอร์มีระบบนิเวศน์ที่ครบวงจรสำหรับการเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ตั้งแต่ภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ดไปจนถึงซันแดนซ์ ภาพยนตร์สารคดี และช่องรายการโทรทัศน์ นักตัดต่อภาพยนตร์มืออาชีพระดับชั้นนำใช้Adobe Premiere Pro CC เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในช่วงปีนี้ ซึ่งได้แก่ The Florida Project, The Square, Only the Brave และ 6 Below รวมไปถึงภาพยนตร์อินดี้ RBG, Clara’s Ghost และ Search และซีรีส์ที่ชนะรางวัลอย่าง MINDHUNTER และ Atlanta
ผู้เข้าร่วมงาน NAB Show ในปีนี้ได้สัมผัสกับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างใกล้ชิด และรับฟังข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมที่บูธของอะโดบี (#SL4610, South Hall ในศูนย์การประชุมลาสเวกัส) และที่บูธของพันธมิตรอีกกว่า 140 บูธ ในช่วงระหว่างวันที่ 9–12 เมษายน
เวิร์กโฟลว์สำหรับวิดีโอและเสียง: เพิ่มความคล่องตัวและปรับแต่งอย่างเหมาะสม
จุดเด่นของฟีเจอร์ใหม่ได้แก่:
· ตัดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยสีและแสงใน Premiere Pro CC – ด้วยเทคโนโลยี Adobe Sensei ผู้ใช้สามารถจับคู่สีในสองภาพด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว และใช้การปรับเปลี่ยน Lumetri ที่แก้ไขได้จากคลิปหนึ่งยังอีกคลิปหนึ่ง เพื่อให้ภาพในฉากต่างๆ มีความสอดคล้องกันในโปรเจ็กต์ทั้งหมด เปรียบเทียบภาพโดยใช้มุมมองแบบแยก ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่
· สร้างแอนิเมชั่นและกราฟิกใน After Effects CC ได้รวดเร็วมากขึ้น – พฤติกรรมและเอฟเฟ็กต์แบบสแต็ค รวมถึงแอนิเมชั่นตามไทม์ไลน์ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับกระบวนการทำงานด้านครีเอทีฟ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแปลงแต่ละเอฟเฟ็กต์บนหลายๆ เวอร์ชั่นของผลงานด้วยการปรับเปลี่ยนเพียงครั้งเดียว โดยใช้คุณสมบัติหลัก (Master Properties) นอกจากนี้ยังสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนให้กับพื้นผิวใดๆ โดยใช้เครื่องมือใหม่ Advanced Puppet
· ปรับปรุงเสียงให้ดียิ่งขึ้นด้วยเวิร์กโฟลว์ด้านเสียงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Sensei – ปรับเปลี่ยนเสียงซาวด์แทร็คโดยอัตโนมัติในช่วงที่มีการสนทนา ไม่ว่าสำหรับคลิปเดียวหรือทั้งโปรเจ็กต์ ด้วย Autoducking ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีSensei ใน Adobe Premiere Pro
· สร้างสรรค์งานศิลป์ที่มีชีวิตชีวาได้รวดเร็วขึ้นด้วย Character Animator – สร้างตัวละครภาพเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยไลบรารีที่ประกอบด้วยพฤติกรรมและทริกเกอร์แบบกำหนดเอง เพียงแค่ลากเลเยอร์จากแผงคำสั่ง Puppet ไปยังแผงคำสั่ง Triggers เพื่อปรับใช้และปรับแต่งพฤติกรรมที่มีอยู่ หรือสร้างพฤติกรรมใหม่โดยใช้ Drop Targets ที่ใช้งานง่าย
· สร้างชิ้นงานแบบ 360 องศา ด้วยเครื่องมือที่ปรับปรุงดีขึ้น เพื่อคอนเทนต์ที่ชวนดื่มด่ำ – Adobe Immersive Environment พร้อมใช้งานแล้วใน After Effects CC โดยจะเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโฟลว์การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเอฟเฟ็กต์หรือการตกแต่งภาพ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม Microsoft Windows Mixed Reality จึงสามารถเลือกใช้อุปกรณ์เฮดเซ็ต (Headset) หลากหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะกับงานอย่างแท้จริง
· ทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดายมากขึ้นในโปรเจ็กต์ของทีม – เพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพสูงสุดในการประสานงานโปรเจ็กต์ร่วมกัน รองรับการติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์ และแสดงสถานะเมื่อเพื่อนร่วมทีมเชื่อมต่อออนไลน์ และมีการแสดงสัญลักษณ์เมื่อโปรเจ็กต์ถูกอัพเดต
· ใช้คอนเทนต์ที่คุณต้องการด้วย Adobe Stock – ผู้ใช้สามารถเข้าถึงวิดีโอ HD และ 4K ที่คัดสรรเป็นพิเศษหลายล้านรายการ และเลือกคลิปที่เหมาะกับภาพถ่ายวิดีโอที่มีอยู่ เติมเต็มช่องว่างในโปรเจ็กต์ หรือเติมแต่งเรื่องราวด้วยภาพที่หลากหลาย ปรับแต่งเนื้อหาวิดีโอด้วยเทมเพลต Motion Graphics ที่ออกแบบโดยมืออาชีพ รวมไปถึงข้อความแบบเคลื่อนไหว และกราฟิกชื่อเรื่อง พร้อมเอฟเฟ็กต์และข้อความที่แก้ไขได้ตามต้องการ
· แผงคำสั่ง Learn สำหรับผู้ใช้ใหม่ – ผู้ใช้ Premiere Pro ระดับเริ่มต้นสามารถศึกษาคำแนะนำสำหรับการตัดต่อวิดีโอผ่านทางแผงคำสั่ง Learn ที่เปิดใช้งานได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ
ราคาและการวางจำหน่าย
ฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับ Adobe Creative Cloud ที่เปิดตัวในงาน NAB พร้อมใช้งานแล้วในเวอร์ชั่นล่าสุดของ Creative Cloud ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาได้ที่ https://www.adobe.com/creativecloud/plans.html สามารถสมัครใช้งาน Adobe Stock ตามแผนบริการที่หลากหลายได้ที่ https://stock.adobe.com/plans
ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติมที่มีประโยชน์
· อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Creative Cloud Video และ Stock
· “มีอะไรใหม่” ใน Adobe Creative Cloud Video และเอกสารข้อมูล
· บล็อกสำหรับ Adobe Creative Cloud Video
· วิดีโอเพลย์ลิสต์ สำหรับ NAB 2018
· Facebook: Creative Cloud, Premiere Pro, After Effects, CC Video & Audio, Adobe Stock
· Twitter: Creative Cloud , CC Video & Audio, Premiere Pro , After Effects, Adobe Stock
· บล็อก: Premiere Pro, After Effects , Audition, Character Animator
ข่าวเด่น