บลจ.ทิสโก้แนะนักลงทุนกระจายสินทรัพย์ลงทุนรับภาวะการลงทุนทั่วโลกผันผวน เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อินคัม พลัส ช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตไปยังสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก เริ่มเสนอขายครั้งแรก 23 เม.ย. ถึง 9 พ.ค. 61
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า ภาวะการลงทุนจากนี้ไปจะยังคงผันผวนต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1/2561 เนื่องจากมีหลายปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามากระทบกับการลงทุน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำและคาดว่าจะไม่กลับเข้าสู่ขาขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้น การจัดสินทรัพย์การลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ต รวมไปถึงหาสินทรัพย์การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุนบรรลุเป้าหมายการลงทุนในระยะยาวได้ง่ายขึ้น
บลจ.ทิสโก้จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อินคัม พลัส (TGINC) ความเสี่ยงระดับ 5 (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงไปในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์หลายประเภทเช่น ตราสารหนี้ หุ้นต่างประเทศ รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ ผ่านกองทุนรวมและ/หรืออีทีเอฟต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ช่วยจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) ให้กับลูกค้าในภาวะตลาดผันผวน กองทุนนี้มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท จองซื้อขั้นต่ำ1,000 บาท เสนอขายวันแรก (IPO) 23 เม.ย. ถึง 9 พ.ค.นี้
“จุดเด่นของกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อินคัม พลัส คือ เป็นกองทุนที่ครบเครื่องในกองทุนเดียว สามารถตอบโจทย์การลงทุนของนักลงทุนในช่วงที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ และไม่พลาดโอกาสการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว เพราะกองทุนนี้ได้แบ่งสัดส่วนการลงทุนไปยังตราสารหนี้ หุ้นต่างประเทศ รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังสามารถปรับเปลี่ยนกองทุนและปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตามดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ตามความเหมาะสมของสภาวการณ์ในแต่ละขณะ”นายสาห์รัชกล่าว
เบื้องต้นกองทุนนี้จะลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ 50% รองลงมาคือกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ 30% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ 10% และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ 10% ในส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศที่บลจ.ทิสโก้เลือกจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูง กระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลก อายุตราสารหนี้ (Duration) ไม่ยาวนัก ซึ่งบลจ.ทิสโก้มองว่าเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น โดยตราสารหนี้ระยะสั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ระยะยาว แม้ว่าการคาดหวังผลตอบแทนทางฝั่งตราสารหนี้จะยังไม่สูงมากนัก แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวม เนื่องจากเงินอีกส่วนหนึ่งของกองทุนจะไปลงทุนสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ทั้งในหุ้นต่างประเทศ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ต
กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อินคัม พลัส มีดัชนีชี้วัดกองทุน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยระหว่าง ดัชนี Bloomberg Barclays US Aggregate Total Return Value Unhedged USD ในสัดส่วน 50% ดัชนี MSCI AC World Daily Total Return Net USD ในสัดส่วน 30% และดัชนี FTSE EPRA/NAREIT Developed Index - USD Net ในสัดส่วน 10% และดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF&REITs) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในสัดส่วน 10% เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
ข่าวเด่น