หลังจากสร้างศูนย์การค้ามาหลายรูปแบบ ทำให้ปัจจุบันบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอ็น มีแบรนด์ศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการหลากหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายทั่วไป แบรนด์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือแบรนด์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนทำงาน เพราะตั้งอยู่ในกลางกรุงเทพฯ
และเพื่อเติมเต็มให้กับธุรกิจศูนย์การค้าล่าสุด ซีพีเอ็น ได้เปิดตัวแบรนด์ศูนย์การค้าน้องใหม่ “เซ็นทรัล วิลเลจ” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าขาช้อปทั้งคนไทยและต่างชาติ เนื่องจากศูนย์การค้ารูปแบบดังกล่าวจะเป็นเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่เน้นจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมลักซ์ชั่วรี่ราคาถูกกว่าที่จำหน่ายในช็อป 35-70%
น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า การเปิดตัวศูนย์การค้า “เซ็นทรัล วิลเลจ” ในครั้งนี้ ถือเป็นการพัฒนาศูนย์การค้าในแฟลตฟอร์ม เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้ง ลักซ์ชัวรี่เอาท์เล็ตที่แท้จริงในประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีศูนย์การค้าไทยดำเนินธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว
ดังนั้น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ จึงถือเป็น New Shopping Platform แห่งแรกในประเทศไทย โดยมีเอาท์เล็ตสินค้าลักซ์ชัวรี่เป็นการเติมเต็มการช้อปปิ้งให้ครบทุกมิติ เพื่อให้ศูนย์การค้ามีความครบวงจรมากขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่จะสร้างให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับการก่อสร้างโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ในครั้งนี้ ซีพีเอ็น ได้ใช้งบลงทุนไปกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่โครงการ (GLA)จำนวน 40,000 ตร.ม. จากที่ดินทั้งหมด 100 ไร่บริเวณถนนบางนาตราด กิโลแมตรที่ 14 ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจากจุดเด่นของทำเลที่ตั้งดังกล่าวทำให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ถือเป็นหนึ่งใน key strategic move ที่จะเป็นแบรนด์ใหม่ใน portfolio ของ ซีพีเอ็น ที่จะออกมาตอกย้ำการเป็นหนึ่งใน Global Player ของเอเชีย
น.ส.วัลยา กล่าวต่อว่า บริษัทมองเห็นศักยภาพของตลาดกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศ และชอบช้อปปิ้งแบรนด์ดังระดับโลก ซึ่งจากเทรนด์การเติบโตของกลุ่มคนรักสินค้าแบรนด์เนมที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในเอเชีย บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว
ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านของการทำศูนย์การค้าในลักษณะ outdoor mall ที่ประสบความสำเร็จในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ที่มีพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น เดินได้สะดวกสบาย และการทำศูนย์การค้าที่มีสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกมาจำหน่าย ทำให้ ซีพีเอ็น จะนำประสบการณ์การทำธุรกิจดังกล่สงมาสร้างสรรค์ศูนย์การค้าลักซ์ชั่วรี่เอาท์เล็ตระดับโลกเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ด้วยการดีไซน์ในรูปแบบสถาปัตยกรรมในสไตล์ไทยโมเดิร์นผสานความร่มรื่นของธรรมชาติกับการใช้พื้นที่เอาท์ดอร์ได้อย่างลงตัว เพื่อการมาเยือนครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การมาช้อปปิ้ง แต่ยังได้บรรยากาศการพักผ่อนพร้อมเพลิดเพลินกับการเซลฟี่มุมสวยๆ
ด้านนายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าศูนย์การค้า เซ็นทรัล วิลเลจ จะสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งลักซ์ชัวรี่เอาท์เล็ตที่แท้จริงของเมืองไทยให้เกิดขึ้นได้ ด้วยจุดเด่นที่แตกต่าง 4 ประการคือ 1. ความหลากหลายของลักชูรี่แบรนด์ ทั้งไทยและเทศระดับโลกกว่า 235 แบรนด์ ด้วยสินค้าหลากหลายทั้งแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัว ของเล่น อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เสริมความครบครันด้วยลักชูรี่แบรนด์และสินค้าต่างๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อตอบสนองความต้องการคนทุกเพศทุกวัยทุกสัญชาติ
2. ราคา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการช้อปปิ้งลักชูรี่เอาท์เล็ต ด้วยส่วนลด 35-70% ที่มีทุกวัน ที่ถูกกว่า และไม่ต้องรอ Seasonal Sale หรือไปช้อปต่างประเทศ 3.การให้บริการที่มุ่งเน้น Customer Centric มีบริการหลากหลายครบวงจรเทียบเท่าศูนย์การค้า รวมถึง facility ที่ครบครัน เช่น ร้านอาหาร, จุดบริการนักท่องเที่ยว, playground, โรงแรม, และซูเปอร์มาร์เก็ต 4. ทำเลที่ตั้ง ที่ใกล้สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินที่ติดอันดับ 1 ที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกว่า 55 ล้านคนในปี 2560 และติด 1 ใน 10 อันดับของสนามบินที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชีย และในปี 2563 คาดการณ์ว่า ส่วนขยายของสนามบินจะทำให้รองรับผู้โดยสารได้เป็น 60 ล้านคนต่อปี
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า บริษัทกำลังสร้าง New Shopping Platform ที่จะตอบโจทย์เทรนด์การเติบโตของกลุ่มคนรักสินค้าแบรนด์เนมมีแนวโน้มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเกิดจากกำลังซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่ม Young Affluent ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองของแบรนด์เนมจากทั่วโลก โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มีอายุไม่มากนัก ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว กลุ่มเป้าหมายนี้จะมีลักษณะเป็น นักช้อปที่ฉลาด (Smart Shopper) ชอบซื้อสินค้าที่มีคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา (Quality Seeker) และต้องการมอบรางวัลให้ตนเอง (Self-rewarding)
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจนั้น จะเน้นไปที่คนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทั่วประเทศประมาณ 65% และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35% เพราะจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2560 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยมากถึง 35 ล้านคน ซีพีเอ็น จึงเล็งเห็นโอกาสในการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดังกล่าว และด้วยทำเลที่ตั้งใกล้สุวรรณภูมิทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาช้อปปิ้งได้สะดวก ซึ่งจะส่งผลให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ เป็น A Must Visit Shopping Destination to complete your trip จุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต้องแวะช้อป โดยในปีแรกของการเปิดให้บริการ ซีพีเอ็น คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคนต่อปี
ข่าวเด่น