สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผย 9 พฤษภาคม นี้ “ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี” โอกาสดีเห็นได้ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า สว่างสุกใส สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก จะเห็นแถบเมฆและดวงจันทร์บริวารหลัก 4 ดวงได้ชัดเจน เชิญชวนประชาชนร่วมชมแบบเต็มตาพร้อมชมสุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดีผ่านกล้องโทรทรรศน์ 4 จุดสังเกตการณ์หลักที่เชียงใหม่ โคราช ฉะเชิงเทรา และสงขลา พร้อมโรงเรียนเครือข่ายอีกกว่า 260 แห่งทั่วประเทศ
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี ในช่วงรุ่งเช้าวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 07:10 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ระยะทางประมาณ 658 ล้านกิโลเมตร หรือ 4.40 หน่วยดาราศาสตร์ วันดังกล่าวดาวพฤหัสบดีจะปรากฏบนท้องฟ้ายาวนานตลอดคืน ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกดินจนถึงรุ่งเช้า สว่างสุกใส สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีค่าความสว่างปรากฏประมาณ -2.5 (ความสว่างปรากฏของดวงจันทร์เต็มดวงประมาณ -12.6) และหลังจากนี้เรายังสามารถชื่นชมความสวยงามของดาวพฤหัสบดีได้จนถึงเดือนกันยายน
ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Jupiter Opposition) หมายถึง ตำแหน่งที่ดวงอาทิตย์ โลก และดาวพฤหัสบดี เรียงอยู่ในเส้นตรงเดียวกัน มีโลกอยู่ตรงกลาง จึงเป็นตำแหน่งที่ใกล้โลกที่สุด นอกจากนี้การที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ หมายถึงเมื่อดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ดาวพฤหัสบดีก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และจะปรากฏบนท้องฟ้าให้เรายลโฉมเป็นเวลายาวนานตลอดทั้งคืน จนถึงดวงอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันถัดไป
ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ดาวพฤหัสบดีจะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณกลุ่มดาวคันชั่ง (Libra) ตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) สามารถสังเกตเห็นดาวพฤหัสบดีด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และจะตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เวลาประมาณ 06.00 น. ในเช้าวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 หากสังเกตด้วยกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก จะเห็นดวงจันทร์บริวารหลักทั้ง 4 ดวงของดาวพฤหัสบดี หรือที่เรียกว่า ดวงจันทร์ของกาลิเลียน (Galilean Moons) ได้แก่ ไอโอ (Io) ยูโรปา (Europa) แกนิมีด (Ganymead) และคัลลิสโต (Callisto) รวมถึงแถบเมฆบนดาวพฤหัสบดีได้อีกด้วย และหากใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีหน้ากล้องตั้งแต่ 8 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 50 เท่าขึ้นไป จะมองเห็นจุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัสบดี (Great Red Spot) ได้อย่างชัดเจน ซึ่งคืนวันที่ 9 พฤษภาคม จะสังเกตเห็นจุดแดงใหญ่ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 - 20:00 น. และจะปรากฏอีกครั้งในเวลาประมาณ 02:00 - 06:00 น. ของวันที่ 10 พฤษภาคม 2561
นอกจากการสังเกตการณ์ดาวพฤหัสบดีที่ใกล้โลกที่สุดในรอบปีแล้ว วันดังกล่าวยังมีปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดีให้ได้ติดตามกันด้วย โดยดวงจันทร์ยูโรปาจะโคจรผ่านหน้าดาวพฤหัสบดี เกิดเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดี ในช่วงเวลาประมาณ 18:20-20:36 น. นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าติดตามอย่างยิ่ง และยังถือเป็นโอกาสดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดาราศาสตร์นอกห้องเรียนแก่นักเรียนและประชาชนในชุมชนใกล้เคียงได้ ดร.ศรัณย์กล่าว
สดร. เตรียมจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ตั้งกล้องโทรทรรศน์บริการประชาชนร่วมชม “ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี” และ “ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดี” ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:00-22:00 น. เชิญชวนผู้สนใจร่วมกิจกรรมได้ ณ จุดสังเกตการณ์หลัก 4 แห่ง ได้แก่
1) เชียงใหม่ : อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สอบถามโทร. 081-8854353
2) นครราชสีมา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา สอบถามโทร. 086-4291489
3) ฉะเชิงเทรา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา สอบถามโทร. 084-0882264
4) สงขลา : ลานชมวิวนางเลือก หาดสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา สอบถามโทร. 095-1450411
นอกจากนี้ หน่วยงานเครือข่ายอีกกว่า 260 แห่งทั่วประเทศ ที่รับมอบกล้องโทรทรรศน์ในโครงการ “กระจายโอกาส 77 จังหวัด เปิดฟ้าส่องโลกดาราศาสตร์ เปิดโอกาสเรียนรู้ทั่วหล้า” ได้จัดกิจกรรมสังเกตปรากฏการณ์และนำกล้องโทรทรรศน์มาบริการประชาชนเช่นกัน ติดตามรายละเอียดและสถานที่จัดกิจกรรมเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/NARITpage
“ตามปกติแล้วดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์หรือใกล้โลกมากที่สุดเป็นประจำทุกปี ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561 และครั้งต่อไปในวันที่ 10 มิถุนายน 2562 ขนาดปรากฏของดาวพฤหัสบดีในช่วงที่โคจรมาใกล้โลกในแต่ละปีมีความแตกต่างกันไม่มากนัก เนื่องจากดาวพฤหัสบดีอยู่ไกลจากโลกค่อนข้างมาก ต่างจากดาวอังคารที่มีขนาดปรากฏใหญ่เล็กแตกต่างกันในแต่ละปี (ระยะห่างเฉลี่ยจากโลกถึงดาวพฤหัสบดี 780 ล้านกิโลเมตร ระยะห่างเฉลี่ยจากโลกถึงดาวอังคาร 78 ล้านกิโลเมตร) แต่การส่องกล้องโทรทรรศน์ชมดาวพฤหัสบดีที่เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ มีโอกาสเห็นแถบเมฆที่เป็นพายุขนาดใหญ่บนดาวพฤหัสบดี จุดแดงใหญ่ จุดแดงเล็ก รวมทั้งดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสบดีทั้งสี่ดวง เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ เยาวชน ได้เป็นอย่างดี” ดร.ศรัณย์ กล่าวปิดท้าย
ข่าวเด่น