บล.เออีซี (AECS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,770-1,797 จุด แนะนักลงทุนติดตามความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน คาดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีทิศทางแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ด้านฝ่ายวิจัย แนะจับตาหุ้นที่คาด Outperformตลาด ส่งซิกกลุ่มนิคมฯ อานิสงค์ EEC ระบุ WHA, AMATA, ROJNA น่าลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (7-11 พ.ค.) แนะนำให้ติดตามความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน โดยเฉพาะข้อเสนอเบื้องต้นของสหรัฐฯ อาทิ 1) เป้าลดดุลการค้า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก ณ สิ้นปีก่อน มียอดขาดดุลราว 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 2) ระงับการอุดหนุนอุตสาหกรรม IT ในจีนตามนโยบาย Made in China 2025 ของประธานสี จิ้น ผิง และ 3) ลดกำแพงภาษีสินค้าบางกลุ่มลงจาก 10% เป็น 3.5% ซึ่งทำให้มีการออกมาประเมินว่า หากจีนมีท่าทีประนีประนอมโดยยอมเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อยุติปัญหา และซึ่งแม้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีทิศทางแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (ค่าเงินเอเชียอ่อนค่า) แต่จะเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่หากสงครามการค้ายืดเยื้อต่อไป ทำให้คาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และกดดันราคาหุ้นในตลาดต่างประเทศ
ส่วนตลาดหุ้นไทยทางฝ่ายวิจัยมองว่า ในช่วงสั้นโดยให้กรอบการลงทุนที่ระดับ 1,770-1,797 จุด พร้อมทั้งนี้มองว่า หุ้นที่คาด Outperform ตลาด ได้แก่ 1) หุ้นกลุ่มนิคมฯ ที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย EEC ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 2) หุ้น Real Sector ที่คาดงบ 1Q61 กำไรจะออกมาเติบโตดี YoY ได้แก่ CPALL, BJC, BCH, JWD, SMPC, VIBHA, MONO, RS 3) หุ้นท่องเที่ยวรับอานิสงส์ช่วง 1Q61 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยรวม 10.6 ล้านคน โต 15.39%YoY และเที่ยวเมืองรองคึกคักรับนโยบายรัฐ ได้แก่ ERW, MINT, AOT
“ หากพิจารณาจากกราฟทางเทคนิค เราประเมินภาพการเคลื่อนไหวของ SET สัปดาห์นี้จะแกว่งตัวในลักษณะ Sideway Down ตามกรอบแนวโน้ม โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,797 จุด และคาดว่าจะยังแกว่งตัวไม่หลุดแนวรับ 1,770 จุด อย่างไรก็ดี แนะนำ Stop Loss หากหลุดแนวรับดังกล่าว เพราะมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงหาแนวรับกรอบล่างได้ ฉะนั้นกลยุทธ์รายสัปดาห์ที่เหมาะสม นักเก็งกำไร แนะนำเทรดด้วยกลยุทธ์เข้าออกไว ซื้อแนวรับ-ขายแนวต้าน สำหรับนักลงทุนระยะกลางแนะนำถือเงินสด รอยืนยันการฟื้นตัว เริ่มทะยอยซื้อเมื่อ SET พลิกกลับมาทะลุกรอบแนวต้านบริเวณ 1,797 จุด ทั้งนี้ กลุ่มที่คาดว่ายังมีโอกาสปรับตัวบวกต่อ ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) โดยมี TOPPICK : AIT , JAS , TRUE ”
ข่าวเด่น