กรมการขนส่งทางบก เผย!!! กรณีรถโดยสารประจำทางสาย ปอ.40 เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ สั่งนำรถ!!! ในประกอบการทั้งหมดเข้าตรวจสภาพอีกครั้ง เตือน!!! ผู้ประกอบการขนส่งละเลยไม่บำรุงรักษา ตรวจสอบสภาพรถจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุดทุกกรณี

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง การตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางปรับอากาศเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเกตเวย์ ถนนสุขุมวิท ขาเข้า กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 09.34 น. พบว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้รถเสียหายทั้งคันไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของรถคันเกิดเหตุ เป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศร่วมบริการ ขสมก.สาย 40 เส้นทางสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ(ตลิ่งชัน) – ตลาดลำสาลี คันหมายเลขทะเบียน 14-1341 กรุงเทพมหานคร สิ้นอายุภาษีวันที่31 ธันวาคม 2561 ผ่านการตรวจสอบระบบก๊าซ โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส เอ เอส ออโต้เซอร์วิส เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 60 นำรถเข้าตรวจสภาพครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ขณะเกิดเหตุ นายอดุลย์ สีตาเป็นผู้ขับรถ มีใบอนุญาตขับรถ ท.2 เลขที่ 920/55 สิ้นอายุ 9 พฤศจิกายน 2562 และมีบริษัทพรพินทรานสปอร์ต จำกัด เป็นผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก.สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสันนิษฐานว่าเกิดจากการลัดวงจรของระบบไฟฟ้าในห้องเครื่องยนต์ทางด้านท้ายของตัวรถ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ในห้องเครื่อง และลุกลามตัวถังจากด้านท้าย อย่างไรก็ตามไม่พบการระเบิดของถังและอุปกรณ์ก๊าซ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้เรียกผู้ประกอบการขนส่งเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงทันที โดยดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการ(องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) เป็นเงิน 10,000 บาท ตาม พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 35 และ 71 โดยนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้ในการขนส่ง ทั้งนี้ได้สั่งให้นำรถในบัญชีทั้งหมดอีกจำนวน 20 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถโดยละเอียดอีกครั้งภายในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 หากตรวจพบรถมีสภาพไม่พร้อม ดำเนินการสั่งห้ามใช้รถทันที พร้อมพิจารณาลงโทษขั้นสูงสุดในทุกกรณีความผิดต่อไป

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตรวจตรวจสอบกรณีเกิดอุบัติเหตุ รถโดยสารสาธารณะทันทีในทุกกรณี พร้อมทั้งมีการตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการและกวดขันจับกุมรถโดยสารธารณะที่กระทำความผิดอย่างเข้มงวดจริงจัง และเพิ่มความเข้มข้นมาตรการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถตามนโยบายของรัฐบาล กรณีละเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยที่กำหนดจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุจากสภาพ ตัวรถหรือพนักงานขับรถจะถูกพิจารณาลงโทษในสถานหนัก อีกทั้งผู้ประกอบการต้องร่วมรับผิดชอบทุกกรณีทั้งนี้ในด้านความปลอดภัยของตัวรถ ล่าสุดกรมการขนส่งทางบก ได้เพิ่มความปลอดภัยในด้านอัคคีภัย โดยปรับปรุงวัสดุภายในรถโดยสารให้มีคุณสมบัติป้องกันการลามไฟ ลดความรุนแรงกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้วัสดุที่จะใช้ตกแต่งภายในรถโดยสารที่ต้องผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล หรือผ่านเกณฑ์การทดสอบอัตราการลามไฟ ประกอบด้วย ที่นั่ง ผ้าม่าน ผนัง ที่บุผนัง ที่ปูพื้น และพื้นรถ โดยเฉพาะในรถตู้โดยสารรถโดยสารประจำทาง รถโดยสารไม่ประจำทาง และรถโดยสารส่วนบุคคล หากตรวจพบว่ารถโดยสารคันใดใช้วัสดุตกแต่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย กรมการขนส่งทางบกจะไม่ให้ผ่านการตรวจสภาพรถไม่สามารถจดทะเบียนรถได้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น