ข่าวประชาสัมพันธ์
NIDA Poll เรื่อง ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ครั้งที่ 2


ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพลสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (ครั้งที่ 2)” ทำการสำรวจระหว่างวันที่  8 – 9 พฤษภาคม 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง   ด้วยความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของนิด้าโพลด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified  Random  Sampling) โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาค จากนั้นในแต่ละภูมิภาคสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธี      การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0

 

จากการสำรวจเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้เข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.52 ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคใหม่ เพราะ อยากเห็นคนใหม่ นโยบายใหม่ แนวคิดใหม่ๆ พรรคการเมืองใหม่ เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่า เบื่อการบริหารงานของพรรคการเมืองเก่า ร้อยละ 37.36 ระบุว่า พรรคการเมือง พรรคเก่า เพราะ มีประสบการณ์ ทำงานอย่างมีระบบ เคยเห็นผลงานมาแล้ว มั่นใจในผลงาน มีความคุ้นเคยกับประชาชนเป็นอย่างดี เข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าพรรคการเมืองพรรคใหม่ และร้อยละ 5.12 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ด้านบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 32.24 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 17.44 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 3 ร้อยละ 14.24 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 4 ร้อยละ 10.08 ระบุว่าเป็น    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พรรคอนาคตใหม่) อันดับ 5 ร้อยละ 7.92 ระบุว่าเป็น พล...วิโรจน์ เปาอินทร์ (รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย)  อันดับ 6 ร้อยละ 6.24 ระบุว่าเป็น พล... เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย) อันดับ 7 ร้อยละ 3.44 ระบุว่าเป็น นายชวน หลีกภัย (อดีตนายกรัฐมนตรี) อันดับ 8 ร้อยละ 2.08 ระบุว่าเป็น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (รองนายกรัฐมนตรี) อันดับ 9 ร้อยละ 0.72 ระบุว่าเป็น         นายปิยบุตร แสงกนกกุล (พรรคอนาคตใหม่) และนายอนุทิน ชาญวีรกูล (หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย) ในสัดส่วนที่เท่ากัน และอันดับ 10 ร้อยละ 0.64 ระบุว่าเป็น พล..ทรงกลด ทิพย์รัตน์ (พรรคพลังชาติไทย)

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (10 อันดับแรก) พบว่า      ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 32.16 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 25.12 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ (หนุน พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี) อันดับ 3 ร้อยละ 19.20 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ร้อยละ 11.60 ระบุว่าเป็น พรรคอนาคตใหม่ อันดับ 5 ร้อยละ 2.32 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชนปฏิรูป (นายไพบูลย์ นิติตะวัน) และพรรคเสรีรวมไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 6 ร้อยละ 2.08 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา อันดับ 7 ร้อยละ 1.92 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.28 ระบุว่าเป็น พรรคพลังชาติไทย  (พล..ทรงกลด ทิพย์รัตน์) อันดับ 9 ร้อยละ 0.72 ระบุว่าเป็น พรรคเกรียน และอันดับ 10 ร้อยละ 0.08 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธรรมไทย

 

 

สำหรับปัญหาที่อยากให้นายกคนต่อไปเข้ามาแก้ไขมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.04 ระบุว่า ปัญหาปากท้อง หนี้สินของประชาชน ปัญหาการว่างงาน และราคาพืชผลตกต่ำ รองลงมา ร้อยละ 13.84 ระบุว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ     ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 6.40 ระบุว่า ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ ร้อยละ 4.64 ระบุว่า ปัญหาด้านคุณภาพการศึกษาของเด็กไทย ในปัจจุบัน ร้อยละ 2.72 ระบุว่า ปัญหาด้านสุขภาพการรักษาพยาบาล และการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค ร้อยละ 1.12 ระบุอื่น ได้แก่ ปัญหาการคมนาคม ปัญหาด้านการบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ทุกข้อรวมกัน และร้อยละ 0.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้ง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปอีก พบว่า ประชาชน   ส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.76 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่น เพราะ ยังไม่มีความพร้อม สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  และเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้งเลยทำให้ขาดความเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 31.68 ระบุว่า เชื่อมั่น เพราะ บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะ     ปกติแล้ว เชื่อมั่นในความสามารถและความพร้อมของรัฐบาล และจะได้เป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ และร้อยละ 10.56 ไม่ระบุ/        ไม่แน่ใจ

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 9.04 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 27.04 มีภูมิลำเนาอยู่ปริมณฑลและภาคกลาง ร้อยละ 18.56 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 31.60 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 13.76 มีภูมิลำเนา          อยู่ภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 55.28 เป็นเพศชาย และร้อยละ 44.72 เป็นเพศหญิง 

ตัวอย่าง ร้อยละ 4.72 มีอายุ 18 – 25 ปี ร้อยละ 15.52 มีอายุ 26 – 35 ปี ร้อยละ 21.04 มีอายุ 36 – 45 ปี ร้อยละ 36.24 มีอายุ 46 – 59 ปี ร้อยละ 21.92 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และร้อยละ 0.56 ไม่ระบุอายุ ตัวอย่าง ร้อยละ 91.84 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 4.24 นับถือศาสนาอิสลาม     ร้อยละ 0.88 นับถือศาสนาคริสต์ /ฮินดู/ซิกข์/ยิว/ไม่นับถือศาสนาใด และร้อยละ 3.04 ไม่ระบุศาสนา ตัวอย่าง ร้อยละ 18.32 สถานภาพโสด ร้อยละ 73.52 สมรสแล้ว ร้อยละ 4.96 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ และร้อยละ 3.20 ไม่ระบุสถานภาพการสมรส ตัวอย่าง ร้อยละ 30.16  จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 28.96 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 6.00 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 25.68 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ร้อยละ 5.28 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 3.92 ไม่ระบุการศึกษา 

 

ตัวอย่าง ร้อยละ 10.88 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 13.44 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 20.96 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 17.28 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 14.48 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/      ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 16.88 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน ร้อยละ 2.16 เป็นนักเรียน/นักศึกษา และร้อยละ 3.92 ไม่ระบุอาชีพ ตัวอย่างร้อยละ 12.24 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 24.48 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 24.32 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาท     ร้อยละ 11.76 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท ร้อยละ 6.32 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 –  40,000 บาท ร้อยละ 9.84 มีรายได้เฉลี่ย     ต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 11.04 ไม่ระบุรายได้


1. ท่านอยากได้พรรคการเมืองพรรคใหม่หรือพรรคการเมืองพรรคเก่าเข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

พรรคการเมืองที่ประชาชนอยากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ร้อยละ



 

ครั้งที่ 2

 

(พฤษภาคม 61)

 

ครั้งที่ 1

 

(มีนาคม 61)

พรรคการเมืองพรรคใหม่ เพราะ อยากเห็นคนใหม่ๆ นโยบายใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ พรรคการเมืองใหม่ๆ     เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่า เบื่อการบริหารงานของ พรรคการเมืองพรรคเก่า

57.52

62.32

 

พรรคการเมืองพรรคเก่า เพราะ มีประสบการณ์ ทำงานอย่างมีระบบ เคยเห็นผลงานมาแล้ว 

มั่นใจในผลงาน มีความคุ้นเคยกับประชาชนเป็นอย่างดี เข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าพรรคการเมืองพรรคใหม่

37.36

37.68

ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

5.12

-

รวม

100.00

100.00

 

2. ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

 

อันดับ

บุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน

 

(10 อันดับแรก)

ร้อยละ




 

ครั้งที่ 2

 

(พฤษภาคม 61)

 

ครั้งที่ 1

 

(มีนาคม 61)

1

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี)

32.24

38.64

2

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย)

17.44

13.04

3

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์)

14.24

12.24

4

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พรรคอนาคตใหม่)

10.08

6.88

5

พล...วิโรจน์ เปาอินทร์ (รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย)

7.92

5.12

6

พล... เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย)

6.24

5.84

7

นายชวน หลีกภัย (อดีตนายกรัฐมนตรี)

3.44

5.84

8

นายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ (รองนายกรัฐมนตรี)

2.08

2.88

9

นายปิยบุตร แสงกนกกุล (พรรคอนาคตใหม่) และ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล (หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย)

0.72

0.72

1.52

-

10

พล..ทรงกลด ทิพย์รัตน์ (พรรคพลังชาติไทย)

0.64

-

 

3. ท่านอยากให้พรรคการเมืองพรรคใดได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 

 

อันดับ

พรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

 

(10 อันดับแรก)

ร้อยละ

1

พรรคเพื่อไทย

32.16

2

พรรคพลังประชารัฐ (หนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี)

25.12

3

พรรคประชาธิปัตย์

19.20

4

พรรคอนาคตใหม่

11.60

5

พรรคประชาชนปฏิรูป (นายไพบูลย์ นิติตะวัน) และพรรคเสรีรวมไทย

2.32

6

พรรคชาติไทยพัฒนา

2.08

7

พรรคภูมิใจไทย

1.92

8

พรรคพลังชาติไทย (พล..ทรงกลด ทิพย์รัตน์)

1.28

9

พรรคเกรียน

0.72

10

พรรคประชาธรรมไทย

0.08

 

4. ท่านอยากให้นายกที่ท่านเลือกคนต่อไป เข้ามาแก้ไขปัญหาในเรื่องใดมากที่สุด (เลือกตอบ 1 ข้อ)

 

ปัญหาที่อยากให้นายกคนต่อไปเข้ามาแก้ไขมากที่สุด

ร้อยละ

ปัญหาปากท้อง หนี้สินของประชาชน ปัญหาการว่างงาน และราคาพืชผลตกต่ำ

71.04

ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล

13.84

ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ

6.40

ปัญหาด้านคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยในปัจจุบัน

4.64

ปัญหาด้านสุขภาพการรักษาพยาบาล และการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค

2.72

อื่น ได้แก่ ปัญหาการคมนาคม ปัญหาด้านการบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ทุกข้อรวมกัน

1.12

ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

0.24

รวม

100.00

5. ท่านเชื่อมั่นหรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง ภายในเดือน กุมภาพันธ์ .. 2562 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปอีก

ความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้ง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปอีก

ร้อยละ

 

ไม่เชื่อมั่น เพราะ ยังไม่มีความพร้อม สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

และเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้งเลยทำให้ขาดความเชื่อมั่น

57.76

 

เชื่อมั่น เพราะ บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เชื่อมั่นในความสามารถและความพร้อมของรัฐบาล 

และจะได้เป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้

31.68

ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

10.56

รวม

100.00


 

ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง

 

ตารางที่ 1 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามภูมิภาค      

 

ภูมิภาค

จำนวน

ร้อยละ

กรุงเทพฯ

113

9.04

ปริมณฑลและภาคกลาง

338

27.04

ภาคเหนือ

232

18.56

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

395

31.60

ภาคใต้

172

13.76

รวม

1,250

100.00

ตารางที่ 2 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ

เพศ

จำนวน

ร้อยละ

ชาย

691

55.28

หญิง

559

44.72

เพศทางเลือก

-

-

รวม

1,250

100.00

ตารางที่ 3 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ

อายุ

จำนวน

ร้อยละ

18 – 25 ปี

59

4.72

26 – 35 ปี

194

15.52

36 – 45  ปี

263

21.04

46 – 59  ปี

453

36.24

60 ปีขึ้นไป

274

21.92

ไม่ระบุ

7

0.56

รวม

1,250

100.00

ตารางที่ 4 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามศาสนา

ศาสนา

จำนวน

ร้อยละ

พุทธ

1,148

91.84

อิสลาม

53

4.24

คริสต์ /ฮินดู/ซิกข์/ยิว/ไม่นับถือศาสนาใด

11

0.88

ไม่ระบุ

38

3.04

รวม

1,250

100.00

ตารางที่ 5 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามสถานภาพการสมรส

สถานภาพการสมรส

จำนวน

ร้อยละ

โสด

229

18.32

สมรส

919

73.52

หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่

62

4.96

ไม่ระบุ

40

3.20

รวม

1,250

100.00

 

ตารางที่ 6 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับการศึกษา

ระดับการศึกษา

จำนวน

ร้อยละ

ประถมศึกษาหรือต่ำกว่า

377

30.16

มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า

362

28.96

อนุปริญญาหรือเทียบเท่า

75

6.00

ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

321

25.68

สูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

66

5.28

ไม่ระบุ

49

3.92

รวม

1,250

100.00

ตารางที่ 7 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอาชีพหลัก

อาชีพหลัก

จำนวน

ร้อยละ

ข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

136

10.88

พนักงานเอกชน

168

13.44

เจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ

262

20.96

เกษตรกร/ประมง

216

17.28

รับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน

181

14.48

พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน

211

16.88

นักเรียน/นักศึกษา

27

2.16

พนักงานองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหากำไร

-

-

ไม่ระบุ

49

3.92

รวม

1,250

100.00

ตารางที่ 8 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน

รายได้เฉลี่ยต่อเดือน

จำนวน

ร้อยละ

ไม่มีรายได้

153

12.24

ไม่เกิน 10,000

306

24.48

10,001 – 20,000

304

24.32

20,001 – 30,000

147

11.76

30,001 –  40,000

79

6.32

40,001 ขึ้นไป

123

9.84

ไม่ระบุ

138

11.04

รวม

1,250

100.00

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 พ.ค. 2561 เวลา : 14:53:47
18-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 18, 2025, 2:47 am