เศรษฐกิจไทยปี 2561 ได้รับอานิสงค์จากการส่งออกและการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดี ส่งผลให้หน่วยงานต่างๆเริ่มส่งสัญญาณปรับประมาณการตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทยใหม่
โดย น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจใหม่ โดยเพิ่มจากต้นปีที่คาดว่าจะโต 4.2% เพิ่มเป็น 4.5% ซึ่งสูงที่ได้ในรอบ 6 ปีนับจากปี 2555 เนื่องจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องการเศรษฐกิจหลายตัวดีกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขยายตัวได้ถึง 4.8% สูงกว่าที่คลังคาดไว้ว่าจะโต 4% จึงทำให้ต้องมีการปรับประมาณการทางเศรษฐกิจใหม่
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายตัวที่ปรับดีขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลก ที่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้าโลก ปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี การคว่ำบาตรประเทศอิหร่านลดลง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐ ก็เติบโตสูงกว่าประมาณการ ทั้งสหรัฐอเมริกาโต 2.9% จีนโต 6.8% สิงคโปร์โต 4.4%
สำหรับการส่งออกคาดว่า จะขยายตัวได้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 8% ที่ประกาศไว้เดิม สาเหตุจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากเดิมที่ประมาณการณ์ว่าค่าเงินปีนี้จะอยู่ที่ 31.5 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปัญหาราคาน้ำมันแพงเป็นปัญหาระยะสั้น และน่าจะลดลงในไม่ช้า เพราะเมื่อดูจากราคาน้ำมันในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของไนเมกซ์ปี 62 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 64-67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าคาในปัจจุบันอยู่ที่ 77.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยคลังประการณ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 66.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยจะปรับขึ้นเป็น 67.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นปัญหาระยะสั้นไม่กระทบกับการขยายตัวเศรษฐกิจ
ด้านนายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่สศช.ประกาศออกมาถือว่าดีกว่าที่ ธปท. คาดการณ์ไว้ ซึ่งเดิม ธปท. คาดว่า การขยายตัวจะสูงกว่า 4% แต่ก็ไม่คิดว่าจะเติบโตได้ถึง 4.8% การเติบโตที่ดีขึ้นนี้ อาจทำให้ ธปท. พิจารณาปรับคาดการณ์การเติบโตของ จีดีพี ในปีนี้เพิ่มขึ้นได้ จากปัจจุบันที่ประเมินว่าการขยายตัวจะอยู่ที่ประมาณ 4.1%
แต่เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศที่ต้องติดตามพัฒนาการต่อไปอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมที่ต้องติดตามดู นอกเหนือจากความเสี่ยงการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการค้าระหว่างประเทศ และการกระจายตัวของกำลังซื้อในประเทศ
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารเตรียมปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีปีนี้จากเดิมที่ระดับ 4% หลังตัวเลขจีดีพีงวดไตรมาส 1 ปี 2561ขยายตัวดีเกินคาดที่ระดับ 4.8% สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญยังมาจากปัจจัยในต่างประเทศ ส่งผลให้การส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง
นายนริศ สถาผลเดชา เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ขยายตัวถึง 4.8% ถือว่า ออกมาดีเกินคาด หลังกลไลขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายๆตัวกลับมาเติบโต พร้อมๆกัน โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว 3.6% เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 3.4% ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประชาชนกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งฝ่ายวิจัยทีเอ็มบี เตรียมปรับเพิ่มคาดการณ์ จีดีพีในปีนี้เพิ่ม จากปัจจุบันที่ประเมินว่าจะขยายตัวได้ 4.2%
ข่าวเด่น