สาเหตุหลักที่รัฐบาลต้องเร่งออกกฎหมายคุมเงินดิจิทัล โดยประกาศเป็นพระราชกำหนด น่าจะมีเหตุผลจากการป้องกันไม่ให้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน โดยเฉพาะในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงการป้องกันการหลอกลวงให้เข้ามาลงทุน
ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานสัมมนา "Symposium Thailand 4.0 "Fintech & Cryptocurrency vs. Law Enforcement" ว่า คริปโตเคอร์เรนซี่ ฟินเทค และสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็นเรื่องใหม่และไม่มีลักษณะทางกายภาพ ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องใช้เวลาในการพิจารณากฎหมาย เพื่อให้รัดกุมมากที่สุด เพราะอาจะเกิดการทุจริต โจรกรรม หรือการหลอกลวงให้เข้ามาลงทุนได้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้รับการแจ้งเตือนจากต่างประเทศให้ระวังจะตกเป็นสวรรค์แห่งฟอกเงินของกลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ที่จะเข้ามาฟอกเงินผ่านการลงทุนบิทคอยน์ การฟอกเงินเพื่อการค้ามนุษย์ และการซื้อขายยาเสพติด รวมทั้งเตือนให้ระวังอาจมีผู้กระทำผิดด้วยการลงทุนบิทคอยน์ เพื่อนำเงินมาใช้ในการซื้อสิทธิขายเสียงในช่วงเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ดังนั้น รัฐบาลจึงได้เร่งหาแนวทางป้องกัน โดยมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกระทรวงการคลังศึกษาจนนำไปสู่การจัดทำเป็นกฎหมายขึ้น
ทั้งนี้รัฐบาลมองว่า คริปโตเคอร์เรนซี่ ฟินเทค และสินทรัพย์ดิจิทัลมีทั้งประโยชน์และโทษ ประโยชน์ คือ จะช่วยผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ (สตาร์ทอัพ) และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ถ้าใช้อย่างระมัดระวัง รัฐบาลมีกลไกดูแล แต่ไม่คัดค้านการเล่นคริปโตเคอร์เรนซี่และสินทรัพย์ดิจิทัล เพียงแต่ขอให้ผู้เล่นรู้ทันกัน รวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วย
ด้านดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงความท้าทายของภาครัฐในการกำกับดูแลฟินเทค (Fintech) ว่า ระบบฟินเทคได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อภูมิทัศน์ของภาคการเงินใน 4-5 ประเด็นที่สำคัญ เช่น ทำให้เส้นแบ่งระหว่างผู้ให้บริการทางเงินไม่ชัดเจนเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันมีการแบ่งฟินเทค ออกเป็นธุรกรรมย่อยๆ เฉพาะส่วนมากขึ้น เช่น การให้บริการเฉพาะการโอนเงินข้ามแดน, การให้บริการเฉพาะสินเชื่อ เป็นต้น รวมถึงการเกิดแพลตฟอร์มใหม่ๆ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการกำกับดูเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อให้มีการควบคุมดูแลที่ดี และไม่ทำให้เทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ สร้างความเสียหายต่อภาคการเงิน และต่อเนื่องถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศได้
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเหมาะสมกับกลุ่มคนที่เรียกว่า "แฟนพันธุ์แท้" เท่านั้นไม่ใช่ตลาดที่บุคคลทั่วไปที่ไม่ค่อยมีความรู้เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะการระดมทุนในลักษณะนี้ เป็นเรื่องที่จะต้องมีความเข้าใจเรื่องของเทคโนโลยี และเหตุผลของการระดมทุนผ่าน ICO และผลตอบแทนที่สูงถึง 100-1,000% ขณะเดียวกันอาจจะล้มเหลวเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าได้เช่นกัน
โดยคนที่จะเข้ามาเล่นตลาดนี้จะต้องเข้าใจ 2 เรื่องหลัก คือ 1. ต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีมันคืออะไร เทคโนโลยีมีความเป็นไปได้หรือเปล่า 2.ต้องเชื่อว่าเทคโนโลยีเมื่อทำได้สำเร็จแล้ว มันสามารถที่จะไปสร้างเงินสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล แล้วผลตอบแทนที่ได้อย่างมหาศาลจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อธุรกิจไปดิสรัปชัน (Disruption) ธุรกิจอื่นที่เคยทำอยู่แล้ว
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การออกหลักเกณฑ์และการกำกับดูแลนั้น เป็นเรื่องที่ควรต้องมีเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเสถียรภาพโดยรวมของระบบ เนื่องจากในประเทศมีทั้งผู้ที่รู้ และสามารถรองรับความเสี่ยงจากการลงทุนในคริปโต เคอร์เรนซี่ และมีผู้ที่ไม่รู้แต่อาจจะถูกล่อลวงไปโดยทุจริตได้ จึงต้องมีกรอบไว้เพื่อดูแลในระดับหนึ่ง
ข่าวเด่น