เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
รายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน ปี 2561


"เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนเมษายน ปี 2561 ขยายตัวอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค นำโดย กทม.และปริมณฑล ภาคกลาง และภาคใต้ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี"

 


 

นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน ปี 2561 "เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนเมษายน ปี 2561 ขยายตัวอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาคสอดคล้องกับเศรษฐกิจมหภาค นำโดย กทม.และปริมณฑล ภาคกลาง และภาคใต้ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สอดคล้องกับการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี" โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้

กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 6.5 ต่อปี ตามการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ร้อยละ 22.5 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะปทุมธานีและกรุงเทพมหานคร เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 11.1 และ 10.4 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับเงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนเมษายน อยู่ที่ 5,452 ล้านบาท จากการลงทุนในจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี ทั้วจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 6.4 และ 19.0 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวได้ดีทั้งจากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน

(เบื้องต้น) 2561 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ -1.3 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคกลาง เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 6.5 ต่อปี จากการขยายตัวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง เป็นสำคัญ เช่นเดียวกันกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 38.5 ต่อปี สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 11.2 และ 13.7 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนเมษายน 2561 อยู่ที่ 772.2 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 41.8 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 5.9 และ 10.8 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี จากการเพิ่มขึ้นของข้าวเปลือก และข้าวโพด เป็นต้น ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน (เบื้องต้น) 2561 อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคใต้ เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ใน เดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 8.8 ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต กระบี่และสงขลา เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 28.4 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา พังงา และภูเก็ต เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.7 และ 12.9 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนเมษายน 2561 อยู่ที่ 1,388.7 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 183.7 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดพัทลุง และสุราษฎร์ธานี เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 8.7 และ 21.86 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดฝั่งอันดามัน เป็นต้น ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน ปี 2561 (เบื้องต้น) อยู่ในระดับเอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.6 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ใน เดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 22.9 ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 47.0 ต่อปี ตามการขยายตัวทุกจังหวัด เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 19.0 และ 27.3 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนเมษายน 2561 อยู่ที่ 1,763 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 66.3 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดชลบุรี และปราจีนบุรี เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 10.0 และ 23.0 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับผลผลิตอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออกที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่เหนือระดับ 100 มาอยู่ที่ 105.4 ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน (เบื้องต้น) 2561 ปรับตัวลดลงมาที่ร้อยละ -1.2 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคเหนือ เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี จากการขยายตัวในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และตาก เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 27.6 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน แพร่ และกำแพงเพชร เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 4.4 และร้อยละ 15.1 ต่อปี ตามลำดับ ตามการลงทุนในเกือบทุกจังหวัด สอดคล้องกับเงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ ในเดือนเมษายน 2561 อยู่ที่ 2,414 ล้านบาท จากการลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 4.9 และ 9.3 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน (เบื้องต้น) 2561 ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงภาคเกษตรเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภค

ภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.9 ต่อปี สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง จากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 38.4 ต่อปี จากการขยายตัวทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ เป็นต้น ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงทรงตัว แต่มีการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรเพิ่มขึ้น สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 20.0 ต่อปี ตามการขยายตัวในจังหวัดเศรษฐกิจหลัก อาทิ ขอนแก่น อุบลราชธานี และนครพนม เป็นต้น สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.0 และ 8.8 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี จากการขยายตัวในผลผลิตข้าว อ้อยโรงงาน และข้าวโพด เป็นต้น ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน (เบื้องต้น) 2561 ปรับตัวลดลงมาที่ร้อยละ -0.7 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคตะวันตก เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 23.8 และ 6.6 ต่อปี ตามลำดับ ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงทรงตัว แต่มีการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ในเดือนเมษายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 14.2 ต่อปี สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 5.1 และ 11.0 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน (เบื้องต้น) 2561 ที่ยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนเมษายน 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 พ.ค. 2561 เวลา : 17:18:43
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 3:48 pm