สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยฝ่ายอุตสาหกรรม นำผู้ประกอบการในโครงการ “การสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง” กว่า 40 ราย ร่วมนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมบริเวณบูธ จัดบูธ Innovation and Design Zone (IDZ) ภายในงาน THAIFEX 2018 เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทpแสดงผลงาน สร้างโอกาสจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ รวมถึงประชาสัมพันธ์และต่อยอดธุรกิจสู่ตลาดสากล
น.ส.พีชยา จิระธรรมกิจกุล ผู้จัดการงานอุตสาหกรรมอาหาร เกษตร และสุขภาพ โปรแกรม ITAP สวทช. กล่าวว่า “จากผลการดำเนินการของโครงการการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลา 2 ปีเศษที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สวทช. และ สกว. ได้รับความสนใจจากทั้งผู้ประกอบการ SME และนักวิจัยเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการมีการตื่นตัวในการสร้างสินค้านวัตกรรมมากขึ้น และเกิดนักวิจัยที่มาร่วมทำงานกับภาคเอกชนใหม่มากขึ้น โดย สวทช. และ สกว. จะร่วมกันบริหารจัดการงานวิจัยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อผลักดันงานวิจัยที่เกิดขึ้นให้สามารถจัดจำหน่ายได้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้สามารถพัฒนาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
“โครงการการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นการทำงานร่วมกันของโปรแกรม ITAP สวทช. และชุดโครงการ Innovative House ฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอาหารให้เข้าถึงและนำนวัตกรรมไปใช้ในการแก้ไขปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถผลักดันสินค้าสู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้จริง และภายใต้งาน THAIFEX 2018 ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี สวทช. สกว. และ และสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้ร่วมกันจัดบูธ Innovation and Design Zone (IDZ) ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหารที่เข้าร่วมโครงการได้นำเสนอผลสำเร็จจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์น้ำแตงโมพาสเจอไรซ์ ผลิตภัณฑ์ข้าวเสริมสุขภาพด้วยกระเจี๊ยบเขียว ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจากจิ้งหรีด และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายในบูธจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกว่า 40 ราย” น.ส.พีชยา จิระธรรมกิจกุล กล่าว
ด้าน ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์น้ำแตงโมพาสเจอไรซ์ นายสถาพร ลิ้มตระกูล ผู้จัดการบริษัท บุญมีดริ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท บุญมีดริ้ง จำกัด ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกผลไม้ทุกชนิด มีความต้องการพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาด จึงมีความสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์จากแตงโม เป็นผลิตภัณฑ์น้ำแตงโมพร้อมดื่มเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ถูกปากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออกในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีผู้ผลิตรายใดที่ผลิตน้ำแตงโมพร้อมดื่มในประเทศไทย ดังนั้น จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขยายโอกาสด้านธุรกิจเครื่องดื่มผลไม้ได้อีกทางหนึ่ง โดยน้ำแตงโมที่ผลิตมีขนาดบรรจุ 270 มิลลิลิตร เก็บรักษาได้นาน 30 วัน ในอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส หรือแช่เย็น
ขณะที่ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ข้าวเสริมสุขภาพด้วยกระเจี๊ยบเขียว นายณัฐพงค์ ติรเศรษฐภักดี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เควายเอส ฟูสด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เควายเอส ฟูสด์ จำกัด เป็นผู้ประกอบการโรงสีข้าวในจังหวัดนครราชสีมา ในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีข้าวโคราชยงสงวน ต้องการเพิ่มมูลค่าผลผลิตหลักของโรงสีทั้งที่เป็นข้าวเต็มเมล็ดและข้าวหัก เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวที่มีศักยภาพต่อการผลิตในเชิงพาณิชย์และในระดับอุตสาหกรรม โดยผู้ประกอบการต้องการสร้างจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้เป็นขนมขบเคี้ยวที่มีพลังงานต่ำและเส้นใยอาหารสูง โดยเน้นการเสริมเส้นใยอาหารด้วยกระเจี๊ยบเขียว เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวอุดมด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยเหตุนี้ จึงมีแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเสริมสุขภาพด้วยกระเจี๊ยบเขียว รสชาติผัดฉ่า และบาร์บีคิวชีส ขนาดบรรจุ 15 กรัม
และ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจากจิ้งหรีด นายทัชธร วงศ์วานิช ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อินเซ็ค โปรตีน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท อินเซ็ค โปรตีน จำกัด ได้ทำการศึกษาถึงแหล่งโปรตีนใหม่ในช่วงที่ผ่านมา และค้นพบถึงความน่าสนใจของโปรตีนที่มาจากจิ้งหรีด เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนที่ค่อนข้างสูง จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากจิ้งหรีดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มคนที่รักสุขภาพที่อยากทานขนมขบเคี้ยว และกลุ่มคนที่เน้นออกกำลังกาย โดยขนาดบรรจุอยู่ที่ 40 กรัม อายุการเก็บรักษา 6 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีสินค้านวัตกรรมอาหารอื่นๆ ในโครงการฯ อีกจำนวนมาก อาทิ ตำผลไม้ฟรีซดรายด์ที่นำเอาผลไม้นานาชนิดมาปรุงรสชาติให้กลมกล่อมอย่างไทยๆ แล้วแปรรูปแช่เยือกแข็ง มะม่วงอบน้ำผึ้งของสวีทบีที่ใช้น้ำผึ้งแท้ 100% อบคู่กับมะม่วงสดๆ แครกเกอร์แมงกะพรุนบางกรอบที่มีส่วนผสมของแมงกระพรุนถึง 30% คอลลาเจนสกัดเย็นจากหอยเป๋าอื้อ และ B-SMILE น้ำผึ้งมะนาวเข้มข้มส่งตรงจากไร่ เป็นต้น
ข่าวเด่น