บริษัท เอซุส มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ ZenFone Max Pro M1 ตอบโจทย์นักเล่นเกมด้วยความแรงและแบตอึด และ ZenFone 5Z ที่มาต่อยอดความสำเร็จของ ZenFone 5 ในประเทศไทยด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม

เอซุสตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนอีกครั้ง กับการสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนทรงประสิทธิภาพมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงสุดในตลาด ออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์ในราคาที่จับต้องได้ภายใต้ชื่อ ZenFone Max Pro M1 ซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการและจากกระแสตอบรับอย่างล้นหลามหลังการเปิดตัว ZenFone 5 ในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เอซุสจึงนำ ZenFone 5Z เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นล่าสุดเพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนที่เร็วและแรงที่สุดเท่าที่เอซุสเคยสร้างมา

ASUS ZenFone Max Pro M1

สมาร์ทโฟนที่แรงและมีแบตเตอรี่อึดที่สุดของเอซุส โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 5,000 mAh ภายในบอดี้ที่มีความหนาเพียง 8.46 มม. ทำให้ ZenFone Max Pro M1 ทำลายสถิติสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่บางที่สุดในโลก และเอซุสยังเลือกใช้ชิพ Qualcomm^®Snapdragon™ 636 Mobile Platform พร้อมแรมสูงสุด 6GB รีดประสิทธิภาพการประมวลผลอย่างทรงพลังบนหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.99 นิ้วแบบ Full HD+ และมีคอนทราสต์สูงถึง 1,500:1 จึงสามารถเล่นเกม ROV หรือ Free Fire ได้อย่างเต็มที่นานสูงสุด 11 ชั่วโมง ดู Netflix ต่อเนื่องได้นานสูงสุด20 ชั่วโมง หรือดู Game of Thrones จบ 2 ซีซั่นด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ ZenFone Max Pro M1 ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Pure Android Oreo 8.1 เปิดเกมเร็วกว่าลื่นกว่า และอัพเกรดซอฟท์แวร์ได้ไวกว่าเดิม โดยใช้ลำโพงแม่เหล็ก 5 ชิ้นพร้อมแอมป์จาก NXP ที่ให้เสียงดังชัดกว่าเดิมถึง 41% โดยที่เสียงไม่แตกหรือผิดเพี้ยน แต่ก็ยังไม่ทอดทิ้งคุณสมบัติสำคัญอย่างกล้องถ่ายภาพ ซึ่ง ZenFone Max Pro M1 มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซลที่ถ่ายภาพโหมด Portrait ได้ พร้อมแฟลชแบบ Softlight  LED ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังและยังบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K Ultra HD ได้ พร้อมตอกย้ำความเป็นสมาร์ทโฟนสายเกมเมอร์ ทั้งนี้ ทางเอซุสยังประกาศความเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับเกมส์  Free Fire จากบริษัทGarena Thailand ด้วยการมอบไอเท็มพิเศษแก่ลูกค้าและโปรโมทสินค้า ZenFone Max Pro ในเกมส์

ZenFone Max Pro M1 มาพร้อมราคาที่สุดพิเศษ ดังนี้

·  ราคา 5,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 3GB และหน่วยความจำขนาด 32GB

· ราคา 6,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 4GB และหน่วยความจำขนาด 64GB

· ราคา 7,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 6GB และหน่วยความจำขนาด 64GB

ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ ZenFone Max Pro M1 ทั้ง 3 รุ่นก่อนใคร สามารถสั่งจองพรีออเดอร์ผ่านเว๊บไซต์ Shopee หรือ https://shopeeth.onelink.me/3686521112/84dfafbc ได้ระหว่างวันที่ 12-18มิถุนายน 2561 พร้อมรับทันที Shopee Coin มูลค่า 500 บาท และ Free Fire Limited Edition ASUS Jacket ไอเท็มพิเศษในเกมส์ Free Fire

มร. เร็กซ์ ลี  ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทเอซุส กล่าวเปิดงาน

ASUS ZenFone 5Z

หลังจากกระแสตอบรับอันท่วมท้นของ ZenFone 5 ในประเทศไทย เอซุสตอกย้ำความสำเร็จนี้อีกครั้งด้วยสมาร์ทโฟนเรือธงที่แรงที่สุดในนาม ZenFone 5Z มาพร้อมชิพอันทรงพลัง Qualcomm^®Snapdragon™ 845 Mobile Platform ผสานกับเทคโนโลยี Qualcomm^® AI Engine และ AI Boost ทำให้ ZenFone 5Z มาพร้อมระบบอัจฉริยะ คิดได้ไวยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับโหมดและตั้งค่าเองขณะถ่ายภาพ การปรับความเร็วประมวลผลให้เหมาะสมต่อการใช้งาน การควบคุมระบบชาร์จไฟ หรือปรับแต่งโทนสีหน้าจอและเสียงเรียกเข้าตามสภาพแวดล้อม ทุกสิ่งจะถูกจัดการให้คุณล่วงหน้าด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะ AI

ZenFone 5Z มาพร้อมกล้องหลังคู่ กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ OIS และเซ็นเซอร์ภาพ IMX363 ที่ดีที่สุดจาก SONY^® รับแสงได้มากกว่าเดิมถึง 5 เท่า ทำงานร่วมกับกล้องรองมุมกว้างพิเศษ 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทั้งนี้  ZenFone 5Z ยังนำเสนอกล้องและชิพที่ทรงพลังที่สุด มาพร้อมแรมสูงสุด 8GB และหน่วยความจำสูงสุด 256GB แบบ UFS 2.1 ที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม และเทคโนโลยี ASUS OptiFlex™ 3.0 ทำงานร่วมกับAI อย่างชาญฉลาด จึงสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นที่ใช้บ่อยได้เร็วขึ้นกว่าปกติเกือบ 2 เท่าประสิทธิภาพโดยรวมของ ZenFone 5Z จึงเทียบชั้นสมาร์ทโฟนเรือธงคู่แข่งทุกรายในตลาดสมการรอคอย

มร.อัลวิน เฉิน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอซุส (มาร์เกตติ้ง) ประเทศไทย (ซ้าย) พร้อมด้วย มร.ชาร์ลส์ ลิว ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัท เอซุส (มาร์เกตติ้ง) ประเทศไทย (ขวา) นำเสนอสมาร์ทโฟนตัวใหม่จากเอซุส ZenFone Max Pro M1 และ ZenFone 5Z

ZenFone 5z จะเริ่มวางจำหน่าย ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ในราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 6GB และหน่วยความจำขนาด 128 GB และราคา 19,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 8GB และหน่วยความจำขนาด 256 GB