นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKP) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2561 ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่า 6,500 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 เสนอขาย 4,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.56 ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 เสนอขาย 2,500 ล้านบาท อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.06 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน โดยเปิดจองซื้อเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ปรากฎว่าหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันอย่างมากและจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้
“การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเสนอไปเมื่อปี 2559 จำนวน 4,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2562 มีอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 4.00 ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สาเหตุที่หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งสองครั้ง เพราะความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อศักยภาพและธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีอนาคตที่สดใสและคุ้มค่าแก่การลงทุน รวมถึงการให้อัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม ทำให้มียอดจองมากเกินกว่าสองเท่า ทั้งๆ ที่อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ในครั้งที่สองต่ำลงกว่าครั้งแรกถึงร้อยละ 1.44 ก็ตาม” นายธนวัฒน์กล่าวและว่า การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ระดับ "A" แนวโน้มอันดับเครดิต"คงที่" และอันดับเครดิตของตราสารหนี้ ที่ระดับ "A-" แนวโน้มอันดับเครดิต"คงที่”
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำไปไถ่ถอนหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งแรกก่อนกำหนด ทั้งจำนวน 4,000 ล้านบาท ส่วนอีก 2,500 ล้านบาท จะนำไปซื้อหุ้นในบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) จาก บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เป็นผลให้สัดส่วนที่ CKP ถือหุ้น XPCL เพิ่มจากร้อยละ 30.00 เป็นร้อยละ 37.50 นอกจากนี้ การออกหุ้นกู้ดังกล่าว ทำให้ต้นทุนการเงินถัวเฉลี่ยโดยรวมของบริษัทฯ ต่ำกว่าร้อยละ 4.00 และยังทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดในอนาคตได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ปรับเงินกู้ให้มีอัตราดอกเบี้ยคงที่และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสัดส่วน 50:50 เพื่อลดความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย
“บริษัทฯ ต้องขอขอบพระคุณนักลงทุนสถาบันที่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อ CKP” นายธนวัฒน์กล่าว
อนึ่ง CKP ดำเนินธุรกิจในลักษณะ Holding Company และลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ 3 ประเภท ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โดยมีบริษัทย่อยประกอบด้วย บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด (SEAN) ถือหุ้นร้อยละ 56 บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ถือหุ้นร้อยละ 30 (ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2561) บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 65 บริษัท บางเขนชัย จำกัด (BKC) ถือหุ้นร้อยละ 100 บริษัท เชียงราย โซล่าร์ จำกัด (CRS) ถือหุ้นร้อยละ 30 และ บริษัท นครราชสีมาโซล่าร์ จำกัด (NRS) ถือหุ้นร้อยละ 30
ข่าวเด่น