หุ้นทอง
'DOD' ฝ่าวิกฤตตลาดหุ้นแดงเดือด เปิดเทรดเหนือจอง 13.98 %


บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันที่ 20 มิ.. นี้ มั่นใจพื้นฐานธุรกิจแกร่ง ด้วยจุดเด่นการเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ในรูปแบบรับจ้างพัฒนาและผลิต (ODM) และให้บริการครบวงจร แบบ One Stop Service ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล เครื่องจักรทันสมัยสามารถรองรับการผลิตที่หลากลาย ทีมวิจัยและพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญ และการควบคุมต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี  ด้านผู้บริหารศุภมาส อิศรภักดีระบุ  เตรียมนำเงินลงทุนโรงงานสกัดวัตถุดิบที่มีเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย  (โรงที่ 2) และห้องปฏิบัติการวิจัยระดับสากล 

 

 

 

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า บริษัทฯเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่  20  มิถุนายน วันนี้เป็นวันแรก โดยใช้ชื่อย่อ  “ DOD ” ในการซื้อขาย ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทแรกๆที่ดำเนินธุรกิจด้านการเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ในรูปแบบODM และให้บริการครบวงจร แบบ One Stop Service และยังได้รับการันตีความน่าเชื่อถือ ภายใต้มาตรฐาน ISO22000:2005, HACCP, GMP Codex และ HALAL รวมถึงยกระดับการผลิต โดยการผลิตในห้องปลอดเชื้อ (Clean Room) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตเดียวกับการผลิตผลิตภัณฑ์ยา มาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากนโยบายหลักของบริษัท คือการที่ใส่ใจดูแลลูกค้าและรักษาความลับทางการค้า ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและเชื่อมั่นที่จะผลิตสินค้ากับบริษัทในระยะยาว

ภายหลังการเข้าระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพอัตราการเติบโตของบริษัทฯในอนาคตได้เป็นอย่างดี  ซึ่งบริษัทฯเตรียมนำเงินที่ได้ ไปลงทุนในโรงงานสกัดวัตถุดิบ (โรงที่ 2)  รวมถึงลงทุนในเครื่องสกัด ด้วย CO2 เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการสกัดพืชสมุนไพร รวมถึงการลงทุนในห้องปฏิบัติการวิจัยระดับสากล ที่ได้มาตรฐาน ISO/IEC 17025  สามารถตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะของสารสกัดที่ได้จากโรงสกัด เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และเป็นสูตรเฉพาะของบริษัท รวมทั้งการให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีและทางจุลชีววิทยากับหน่วยงานภายนอกอื่น

พร้อมทั้งจะนำไปใช้เพื่อพัฒนาตราสินค้าใหม่ของบริษัทฯ อาทิ  ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดี และผลิตภัณฑ์สมุนไพรตรีผลาที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลสุขภาพ ฟื้นฟูระบบการทำงานของร่างกาย ช่วยในระบบย่อยและขับถ่าย นอกจากนี้ จะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

 

บริษัทมีแผนในการขยายธุรกิจในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เมื่อโรงงานสกัดวัตถุดิบ (โรงที่ 2)  และห้องปฏิบัติการวิจัยแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการสกัดสารตั้งต้นทั้งด้านคุณภาพและความหลากหลายของวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย รวมทั้งสามารถลดการสั่งซื้อวัตถุดิบจากภายนอก และยังช่วยประหยัดต้นทุนการผลิต อีกทั้งเพิ่มโอกาสในการผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบประเภทสารสกัด ซึ่งจะเป็นการเสริมรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างมั่นคงมากขึ้นนางสาวศุภมาส กล่าว 

ด้านนายคมกฤต มีคำสัตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัดในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD กล่าวว่า หุ้นDOD เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งจากฐานธุรกิจด้านการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึงมีอัตราการเติบโตมั่นคงอย่างต่อเนื่องในอนาคต ประกอบกับบริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนในการต่อยอดธุรกิจอย่างชัดเจน  

 “มั่นใจว่าธุรกิจของ DOD มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคตภายหลังการดำเนินการก่อสร้างโรงงานสกัดวัตถุดิบที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย (โรงที่ 2) และห้องปฎิบัติการวิจัยระดับสากลแล้วเสร็จ จะส่งผลให้ DOD สามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น” นายคมกฤต กล่าว

 นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า จุดเด่นสำคัญของ DOD คือการให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะเชื่อว่าการวิจัยและพัฒนาเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน DOD จึงมุ่งเน้นการศึกษาพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ ของพืชสมุนไพร ที่หาได้ในประเทศไทย เพื่อนำมาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค โดยบริษัทฯมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้และประสบการณ์ด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพรและยาแผนโบราณ ที่ช่วยกันคิดค้นนวัตกรรม เพื่อพัฒนากระบวนการสกัดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงล่าสุดไตรมาส 1/2561 มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและก้าวกระโดด โดยปี 2558 มีรายได้รวม 385.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 128.89 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม  368.37 ล้านบาท กำไรสุทธิ 138.78 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 388.56 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 142.19 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวดล่าสุดไตรมาส 1/2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 214.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 111.21 ล้านบาท 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 มิ.ย. 2561 เวลา : 15:54:35
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 3:29 pm