กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แนะร้านอาหารไทยและผู้ส่งออกอาหารไทย พัฒนาเมนูอาหารมังสวิรัติ เจาะกลุ่มผู้บริโภคแคนาดาที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ หลังผลสำรวจพบมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด มีสัดส่วนถึง 3.6 ล้านคน หรือ 10% ของประชากรทั้งหมด เผย “เมี่ยงคำ” ได้รับการยอมรับเป็นเมนูเด็ดของร้านอาหารไทยในแคนาดา
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโทรอนโต แคนาดา ได้รายงานโอกาสการพัฒนาร้านอาหารไทยและการส่งออกอาหารไทย เพื่อป้อนกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ (มังสวิรัติ) โดยระบุว่า สินค้าอาหารกลุ่มนี้มีโอกาสเติบโตสูงมากในตลาดแคนาดา เพราะปัจจุบันมีผลสำรวจโดยมหาวิทยาลัย Dalhousie University ที่ยืนยันว่าเทรนด์การรับประทานอาหารมังสวิรัติกำลังเป็นกระแสหลัก มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมีชาวแคนาดาหันมาทานมังสวิรัติสูงถึง 3.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 15-35 ปี ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารของแคนาดา มีการปรับตัว เพื่อรองรับการเติบโตของเทรนด์เหล่านี้
“ขณะนี้เกือบทุกซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ภัตตาคาร ส่วนใหญ่มีการแปะป้ายโฆษณาว่า
มีเมนูอาหารมังสวิรัติเป็นเมนูพื้นฐาน เพื่อต้อนรับชาวมังสวิรัติ ให้ใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ง่ายขึ้น และไม่ได้ยากลำบากเหมือนในอดีต ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นแนวโน้มใหม่ที่กำลังเติบโต จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารของไทยในแคนาดาที่จะปรับเปลี่ยนและเพิ่มเมนูอาหารมังสวิรัติ เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ และ
เป็นโอกาสของผู้ผลิตอาหารไทย ที่จะพัฒนาสินค้ามังสวิรัติ และส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไปป้อนความต้องการในตลาดแคนาดา ซึ่งรวมถึงสารทดแทนโปรตีน เช่น โปรตีนเกษตร ถั่วเหลือง เต้าหู้ เป็นต้น”นางจันทิรากล่าว
ทั้งนี้ ขอยกตัวอย่างความสำเร็จของร้านอาหารไทยในแคนาดา ชื่อ ChuChai Fine Cuisine ที่ให้บริการอาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะ และเปิดกิจการมานานกว่า 20 ปี ในนครมอนทรีออล โดยรายการอาหารที่ได้รับชื่อเสียงของร้าน ได้แก่ “เมี่ยงคำ” ซึ่งเป็นที่ถูกปากของชาวแคนาดา เพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และยังได้รับรางวัล Quebec Finger Food Awardและยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกหลายเมนู เช่น เกี๊ยวสะเต๊, ลาบเป็ด(เจ), ยำมะม่วง, แกงกะหรี่ปั๊บ, เห็ดหวานกรอบ, ปอเปี๊ยะ, แกงเขียวหวานผัก, พะโล้เป็ด(เจ), ไก่ผัดกะเพรา(เจ) เป็นต้น
ปัจจุบันในสังคมโลกตะวันตก มีสไตล์การกินผักออกเป็น 2 แบบ คือ 1.กลุ่มที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ (Vegetarian / Veggie) แต่ยังบริโภคผลิตภัณฑ์นมและไข่ และ 2.กลุ่ม Vegan ซึ่งเป็นกลุ่มมังสวิรัติที่เคร่งครัดกว่า Vegetarian คือ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกประเภทและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้ง หรือแม่แต่ยีสต์ และน้ำตาลขัดขาว ที่จะต้องผ่านกระบวนการใช้กระดูกสัตว์ในการขัดสีน้ำตาล โดยเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และเมล็ดพืชแบบ100% ส่วนกลุ่มเจ เป็นกลุ่มเจแบบไทย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน เป็นกลุ่มที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมถึงผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ
ข่าวเด่น