เดลล์ อิงค์ ประกาศความคืบหน้าประจำปีของแผนงาน 2020 Legacy of Good ได้เผยแพร่มรดกประจำปี 2020 ของการปรับปรุงที่ดีในวันนี้และยังคงมุ่งมั่นในระยะยาวของ บริษัท ต่อสังคมสมาชิกในทีมและสภาพแวดล้อม รายงานสรุปความพยายามในระหว่างปีงบประมาณ 2018 (4 กุมภาพันธ์ 2017 - 2 กุมภาพันธ์ 2018) รายงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องมีรากฐานมาจากความรับผิดชอบของ Dell ในการตระหนักถึงอนาคตอันยั่งยืนและความมั่งคั่ง
บริษัท นำมาสู่ชีวิตคือการสืบทอดมรดกแห่งความมุ่งมั่นที่ดีเพื่อนำเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของเดลล์ไปใช้ในการทำงานให้ดีที่สุดสำหรับผู้คนและดาวเคราะห์ สำหรับ Dell ซึ่งหมายถึงการลงทุนในนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานในอนาคตจะมีส่วนร่วมและความก้าวหน้าของชุมชนที่ด้อยโอกาส
"โปรแกรม The Lagacy of Goods สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่สามารถเป็นไปได้เมื่อผู้คนและเทคโนโลยีมาเจอกันอย่างมีวัตถุประสงค์” คริสทีน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความรับผิดชอบ กล่าว “ลูกค้าท พันธมิตร และสมาชิกในทีมทำงานของเราให้ความสำคัญงานนี้มากขึ้นกว่าเดิม และเราจะแสวงหาหนทางใหม่ ๆ ในการปรับใช้ทรัพยากรของเราออกแบบสิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ในฐานะของบริษัทธุรกิจระดับโลก เดลล์เชื่อว่าการทำงานร่วมกันเป็นหนทางในการจัดการกับความท้าทายมากมายที่โลกเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ในปีนี้ เดลล์ร่วมมือกับรัฐบาลอินเดียและ Tata Trusts ในการเปิดตัว Digital LifeCare โซลูชันการวิเคราะห์
บนระบบคลาวด์ที่จะเข้ามาช่วยปรับปรุงการตรวจสุขภาพสำหรับประชากรเกือบ 37 ล้านคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปีในพื้นที่ 150 เขตทั่วทั้งอินเดียให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยรัฐบาลในการติดตามแนวโน้มสุขภาพต่างๆ ตลอดทั่วทั้งประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ ประชากรจำนวนสองในสามของประเทศอินเดียอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท และแอปพลิเคชัน Digital LifeCare ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่มีปริญญาทางการแพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยและดำเนินการตามโมดูลแบบอินเทอร์แอคทีฟเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการดูแลในระดับเดียวกัน โดยรายละเอียดทั้งหมดมีอยู่ในรายงานนี้ นอกจากนี้ ระบบยังให้ข้อมูลที่มีความสำคัญสำหรับรัฐบาลอินเดียเพื่อใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มทางด้านสุขภาพทั่วทั้งประเทศ
นวัตกรรมและการออกแบบที่ยั่งยืน เดลล์เชื่อว่าการปฏิรูปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการก่อเกิดความก้าวหน้าของมนุษย์ในอนาคต ดังนั้น ความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในด้านซัพพลายเชน กลยุทย์ในด้านการออกแบบและโครงสร้างพื้นฐานในการรีไซเคิลชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีทั่วโลกของบริษัท ได้นำพาเดลล์มาอยู่ในตำแหน่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในการสร้างความก้าวหน้าให้กับรูปแบบของการหมุนเวียนนี้ เดลล์ได้บุกเบิกนวัตกรรมด้านการออกแบบที่ยั่งยืนในหลากหลายสาขา ได้แก่ :
* การรีไซเคิลแบบระบบปิด (Closed-loop recycling): ในช่วงของการรายงาน เดลล์ได้นำเอาการรีไซเคิลพลาสติกแบบระบบปิดเข้ามาสู่สายผลิตภัณฑ์เอนเทอร์ไพรส์ในภาคพื้นยุโรป ด้วยการรีไซเคิลพลาสติกจากขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากกว่า 35,000 ปอนด์ (15,876 กิโลกรัม) ไปสู่ผลิตภัณฑ์เอนเทอร์ไพรส์ใหม่ๆ ทั้งนี้ โครงการการรีไซเคิลทั่วโลกยังรวมถึง เดลล์ คอนเน็ค (Dell Reconnect) อันเป็นความร่วมมือกับ Goodwill® Industries และการบริการด้านรีไซเคิลและการจำหน่ายสินทรัพย์ใช้แล้ว (Asset Resale and Recycling Services) ได้รีไซเคิลพลาสติกและทองคำกว่า 20 ล้านปอนด์ (9 ล้านกิโลกรัม) เพื่อผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ใหม่ขึ้นมา โดยที่ผ่านมาทั้งหมด เดลล์ได้ใช้วัสดุรีไซเคิลไปทั้งสิ้นเป็นจำนวน 73 ล้านปอนด์ (33 ล้านกิโลกรัม) เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเดินหน้าตามเป้าหมายปี 2020 ในการรีไซเคิลวัสดุทั้งหมดให้ถึง 100 ล้านปอนด์ (45 ล้านกิโลกรัม) ได้ตามที่วางไว้
* การสกัดทองคำ (Gold reclamation): ในขณะเดียวกัน เดลล์ได้รีไซเคิลแบบสร้างมูลค่า (upcycling) ให้กับทองในระบบปิด ด้วยการนำเอาทองคำจากขยะอิล์กทรอนิกส์เข้ามาใช้ในแผงวงจรหลักของคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป Dell Latitude 5285 2-in-1 และในเครื่องประดับชุด The Circular Collection ที่เดลล์ได้ร่วมมือกับ Bayou with Love ซึ่งก่อตั้งโดย นิกกี้ รี้ด นักแสดง นักเขียนบทภาพยนต์ และนักออกแบบชื่อดัง ซึ่งจากการศึกษาของ Trucost study พบว่ากระบวนการการสกัดทองคำที่นำทีมโดยเดลล์ และพันธมิตรอย่าง Wistron Green Tech สามารถลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการทำเหมืองทองในรูปแบบดั้งเดิม โปรแกนรมดังกล่าวยังได้รับรางวัล the Best of People’s Choice Award ที่งาน Consumer Electronics Show (CES) 2018 อีกด้วย
* การติดตามขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก (Global e-waste tracking): ในปีนี้ เดลล์กำลังนำร่องการใช้เทคโนโลยีการติดตามทั่วโลกเพื่อเฝ้าตรวจสอบการรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วอย่างรับผิดชอบ นอกเหนือจากการนำโปรแกรมการติดตามทางอิเล็กทรอนิกส์ของตัวเองไปใช้แล้ว เดลล์ยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Basel Action Network ในการใช้ระบบการติดตามในโครงการที่ให้ผู้บริโภคนำสินค้าเก่ามาคืน (Takeback Program) ในกลุ่มเดลล์ คอนซูเมอร์ทั้งหมด โดยผลลัพธ์ทั้งหมดจะถูกรายงานภายในเวลา 12 เดือนโดยประมาณตามหลังโครงการนำร่อง
* การสกัดกั้นพลาสติกไม่ให้ไหลลงสู่มหาสมุทร (Intercepting ocean-bound plastics): แล็ปท็อป Dell XPS 13 2-in-1 บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกจากมหาสมุทร โดยตัวบรรจุภัณฑ์ซึ่งได้รับรางวัล Best of Innovation Award จากงาน CES จะได้รับการนำมาใช้ในสายผลิตภัณฑ์ของ XPS ในวงกว้างยิ่งขึ้น รวมไปถึงสายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอมเมอร์เชียลในปีนี้ เพื่อขยายขอบเขตในการทำงาน เดลล์ได้ร่วมมือกับ Lonely Whale ในการสร้าง NextWave กลุ่มบริษัท (consortium) เพื่ออุทิศให้กับการขยายขอบเขตของกรณีการใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกในอุตสาหกรรมการผลิตในขณะที่สร้างประโยชน์เชิงสังคมและเศรษฐกิจให้กับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ NextWave คาดหวังที่จะผันเปลี่ยนพลาสติกจำนวน 3 ล้านปอนด์ (1.36 ล้านกิโลกรัม) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเทียบเท่าการป้องกันไม่ให้ขวดน้ำจำนวน 66 ล้านขวดไหลลงสู่ท้องทะเล ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญา NextWave ของเดลล์ บริษัทจะยกเลิกการใช้งานหลอดพลาสติกส่วนการดำเนินงานต่างๆ ทั่วโลก
หนทางเดียวที่จะทำให้มั่นใจได้ว่านวัตกรรมที่เรา put in place ในวันนี้จะยังคงอยู่ไปจนถึงวันข้างหน้าคือการให้ทุกคนในที่ทำงานเข้ามามีส่วนร่วม
* สนับสนุนการทำงานร่วมกัน โดยสมาชิกในทีมกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในกลุ่ม Employee Resource Group (ERG) ทั้งนี้ เดลล์เป็นเจ้าภาพ 13 chapters ใน 60 ประเทศ
* ผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และทักษะด้านเทคโนโลยีผ่านทางโปรแกรมการให้เชิงกลยุทธ์ของเดลล์ในปีนี้ โดยตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนไปแล้วรวม 11.2 ล้านคน
* ตั้งแต่ปี 2014 งบประมาณจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ได้ถูกจัดสรรเพื่อโครงการริเริ่มในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) โดยมุ่งเป้าหมายไปที่เยาวชนที่ด้อยโอกาส
* เดลล์ได้บริจาคเงินสนับสนุนจำนวน 650.000 ดอลลาร์เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เยาวชนกว่า 400,000 คน และนักวิชาการอีก 3,000 คนในพื้นที่ 422 แห่งของประเทศเอธิโอเปีย โดยโครงการทั้งหมดซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของกระทรวงศึกษาเอธิโอเปีย และสถาบัน Camara Education จะส่งมอบคอมพิวเตอร์พีซีกว่า 30,000 เครื่องไปยังโรงเรียนกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน 1.2 ล้านคนในช่วงปี 2016 และ 2019 โครงการนวัตกรรมมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์นี้จะครอบคลุมการฝึกอบรมการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นเวลา 16 ล้านชั่วโมง ให้แก่ของแก่ครูและผู้นำโรงเรียนมากกว่า 3,000 คน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียดพันธสัญญา รวมถึงกรณีศึกษาในเชิงลึกต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายทั้งหมดของบริษัท ได้ที่ www.legacyofgood.dell.com.
ข่าวเด่น