นายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนารูปแบบการให้บริการและเพิ่มช่องทางในการชำระภาษีรถประจำปีอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบกหรือผ่าน Application Truemoney Wallet และ mPAY บนโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายสัญญาณ รวมถึงการออกหน่วยบริการรับชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีในวันเสาร์-อาทิตย์ทั้ง 14 สาขา ได้แก่ สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม สุขาภิบาล3อ่อนนุช แจ้งวัฒนะ สำโรง บางบอน สุวินทวงศ์ สมุทรปราการ บางใหญ่ และบางนา ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)”, ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค, ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค (พัฒนาการ) และ ศูนย์บริการร่วม G-point (เซ็นทรัลเวิล์ด, เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัลเวสต์เกต) จึงส่งผลให้การจัดเก็บภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์เฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – พฤษภาคม 2561 สามารถจัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 5,820,459,639.81 บาท โดยการใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 ยังเป็นช่องทางที่ประชาชนนิยมใช้บริการมากที่สุด จำนวน 2,982,983 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 4,275,873,435.54 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 73.46 รองลงมาเป็นช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ จำนวน 403,976 ราย จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 727,572,725.82 บาท คิดเป็นร้อยละ 12.50 และที่หน่วยบริการรับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีในวันเสาร์ – อาทิตย์ ตามโครงการ“ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” มีประชาชนมาใช้บริการรวมทั้งสิ้น 320,011 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 462,022,075.36 บาท คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ ส่วนช่องทางการรับชำระภาษีรถที่เว็บไซต์
https://eservice.dlt.go.th ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น จำนวน 124,749 ราย สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 174,789,816.82 บาท
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการชำระภาษีรถประจำปีเจ้าของรถสามารถดำเนินการได้ล่วงหน้าก่อนครบกำหนด 90 วัน โดยต้องเป็นรถที่ไม่ค้างชำระภาษีรถเกินกว่า 1 ปี และต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถที่มีระยะเวลาคุ้มครองคงเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี ต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทั้งนี้ ประชาชนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการได้ที่แอพพลิเคชั่น DLT eForm iFound เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นโดยตรงจาก Play Store : https://goo.gl/tjzQtb หรือ App Store : https://goo.gl/UQKDAa หรือสแกนคิวอาร์โค้ดจากสื่อประชาสัมพันธ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1584 รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น