หุ้นทอง
'AECS' มองนโยบาย ทรัมป์ ทำตลาดหุ้นผันผวน ให้กรอบดัชนี 1,585 - 1,630 จุด - แนะลงทุนหุ้นกำไรไตรมาส 2 เด่น


บล.เออีซี (AECS)  ตลาดหุ้นไทยเจอมรสุมปัจจัยลบจากนโยบายของทรัมป์สงครามการค้าส่อวุ่นวายมากขึ้น ราคาน้ำมันมีทิศทางลดลงหลังหลังทรัมป์ทวิตฯ ข้อความว่าซาอุฯ พร้อมจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกได้ถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ชดเชย Supply ที่หายไป พร้อมให้กรอบดัชนี 1,585 - 1,630 จุด  แนะลงทุนหุ้นประกาศงบไตรมาส 2/61 เด่น ชู KBANK-BBL-CPALL-BEAUTY-BJC- BDMS- JKN- LH            

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS  เปิดเผยว่า  ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (3-6 ..) ให้กรอบดัชนี 1,585 - 1,630 จุด  แม้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาดัชนีจะปรับตัวลงไปกว่า 7.61% เมื่อเทียบจากเดือนก่อนหน้า จน PER ตลาดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ SET 10 ปีย้อนหลังที่ 15.9 เท่า ถือเป็นการพักฐานก่อนที่จะมีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามา 

 

 

สำหรับปัจจัยกดดันตลาดหุ้น ยังคงเป็นปัจจัยจากต่างประเทศ อาทิ ภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และคู่ค้าหลายประเทศที่รุนแรงขึ้น โดยล่าสุดแคนาดาประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 .. เพื่อต่อต้านมาตรการ Safe guard เหล็กและอลูมิเนียม อีกทั้งวันที่ 6 .. นี้ สหรัฐฯ-จีน จะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าระยะแรกในสินค้ามูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดจะสร้าง Sentiment เชิงลบ และมีโอกาสที่สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการปกป้องทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น ตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่าสหรัฐฯ จะเพิ่มระดับการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนอีกราว 2 แสนล้านดอลลาร์หากจีนยังไม่ยอมยกเลิกการตอบโต้ด้านภาษี 

อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่อาจปรับลง หลังหลังทรัมป์ทวิตฯ ข้อความที่ระบุว่าซาอุฯ พร้อมจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกได้ถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อชดเชย Supply ที่หายไปของอิหร่านและเวเนซุเอล่า ซึ่งสูงกว่าที่ OPEC มีมติเพิ่มกำลังการผลิตในวันที่ 22 มิ.. ที่ผ่านมา และอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงมีทิศทาง

ร้อนแรงขึ้น จากทั้งในส่วนของดัชนี Core PCE ขยับขึ้นเป็น 2% และดัชนีฝ่ายจัดซื้อที่เพิ่มขึ้นแตะ64.1 จาก 60 จุดในเดือนก่อน ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของเฟดให้เร่งตัวขึ้นกว่าเดิม

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “ทยอยซื้อ เน้นรับและไม่ไล่ราคา” ในกลุ่มหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ดังนี้หุ้นธนาคารพาณิชย์ที่คาดกำไรโตหรือราคาหุ้นยัง Laggard โดยมี PBV ต่ำ 1 เท่า ชูKBANK- BBL และ   หุ้นDomestic Play ที่คาดช่วงไตรมาส 2/2561 กำไรยังมีแนวโน้มโตดีเมื่อเทียบจากปีก่อน ชู CPALL-BEAUTY – BJC – BDMS - JKN -LH

ส่วนในทางเทคนิคแนะนำถือเงินสด”  หรือเลือก Trading Short ในตราสารอนุพันธ์ ส่วนนักลงทุนระยะกลางยังคงคำแนะนำเดิม “ถือเงินสด”  ทั้งนี้กลุ่มที่คาด Outperform สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่ม พาณิชย์   โดยมี Top Pick ได้แก่ ROBINS คาดหวังรีบาวด์แนวต้าน 60.00 บาท และหุ้นMAKRO คาดหวังรีบาวด์แนวต้าน 41.75 บาท ทั้งนี้ Stop Loss หากหลุด 38.25 บาท


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ก.ค. 2561 เวลา : 14:19:36
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 5:35 pm