กกร.ภาคเอกชนรายล่าสุดที่ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เป็นโต 4.3-4.8% ส่งออกแตะ 7-10%
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. กล่าวว่า กกร.ได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เป็น 4.3-4.8% จากเดิมที่ 4-4.5% และปรับกรอบอัตราเงินเฟ้อทั่วไปขึ้นเป็น 0.9-1.5% จากเดิม 0.7-1.2% เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจ จากมุมมองที่บวกขึ้นของการส่งออก การท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง
ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เริ่มได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม จากการเติบโตของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรที่เริ่มปรับตัวเป็นบวก ซึ่งน่าจะช่วยหนุนกำลังซื้อฐานรากให้ดีขึ้น และเครื่องชี้การลงทุนที่ทยอยฟื้นตัว ทำให้โดยรวมแล้ว
นอกจากนี้ กกร.ยังปรับเพิ่มประมาณการการส่งออกในปีนี้ เป็น 7 -10 % จากเดิมที่ 5-8% เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีความต่อเนื่อง จะยังคงเป็นแรงหนุนการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตาม กกร. ประเมินว่า ผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และนานาประเทศ จะส่งผลกระทบที่จำกัดต่อการส่งออกของไทยในปีนี้
นายปรีดี บอกด้วยว่า ในส่วนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนและการอ่อนค่าของเงินบาทที่เกิดขึ้นภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งระบุว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่า ตลาดการเงินได้รับรู้แนวโน้มดอกเบี้ยดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว ดังนั้น คาดว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนน่าที่จะทุเลาลง และเงินบาทน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย
ด้านนายกลินทร์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากระดับราคาสินค้าภาคการเกษตรที่เริ่มดีขึ้นทำให้แรงซื้อของคนไทยเริ่มฟื้นตัว โดยจะเห็นว่ายอดขายรถปิกอัพเติบโตขึ้น
ขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กกร.มีมติให้ฝ่ายวิชาการไปศึกษาการกระจายรายได้ โดยให้แยกเป็นรายภูมิภาค เพื่อที่จะให้ทราบถึงแนวทางการสนับสนุนงบประมาณของภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ตรงจุดมากขึ้น
ข่าวเด่น