จากเหตุการณ์เรือล่มที่เกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 เนื่องจากลมมรสุมและคลื่นลมแรง เป็นผลให้เรือนักท่องเที่ยวล่ม จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือฟินิกซ์ เรือเซเนลิก้า และเรือเจ็ทสกี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจำเป็นต้องจัดประชุมเสวนาระดมสมองจากทุกภาคส่วนเพื่อหารือกำหนดมาตรการที่จะระวังป้องกันเหตุลักษณะดังกล่าวนี้ให้ได้ผลอย่างแท้จริง
(6).jpg)
(12).jpg)
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ป.กก.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมมาตรการและแนวทางรักษาความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางถ้าและทางน้ำซึ่งมี นายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าร่วมหารือแสดงความคิดเห็นจำนวนมากว่าครั้งนี้นับเป็นโอกาสพิเศษอีกครั้งหนึ่งที่ทุกภาคส่วนต้องผนึกกำลังร่วมกันเพื่อหามาตรการควบคุมหรือลดความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก
.jpg)



ปลัดท่องเที่ยวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ประเทศไทยจะเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมกว่า 35 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการขยายตัวสิ่งที่ตามมาและหลีกเลี่ยงไม่ได้คืออุบัติภัยต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวเป็นเงาตามตัวจึงส่งผลถึงความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในการตัดสินใจเดินทาง และกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย นี่จึงเป็นคำตอบที่เราต้องมี “กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ” ซึ่งเรื่องนี้คิดว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว เพราะกองทุนจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือเยียวยาให้นักท่องเที่ยวกรณีเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทย ประกอบด้วยคณะกรรมการกองทุนที่มีหน้าที่พิจารณาตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลภายใต้เงื่อนไขการจ่ายเงินเยียวยาที่โปร่งใส ชัดเจนผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาก็ได้รับอย่างถูกต้องตามหลักของกฎหมาย และตามกติกาสากลอย่าง ถูกต้อง ถูกที่ถูกเวลา”

การดำเนินงานของกองทุนฯ เป็นการตอกย้ำและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในประเทศไทย กับนักท่องเที่ยวมาก ทั้งด้านการป้องกันการเกิดเหตุ แก้ไขและให้การช่วยเหลือหากนักท่องเที่ยวประสบภัยจากการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยมีความได้เปรียบกว่าประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังมีจุดอ่อนในเรื่องของความปลอดภัย หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชีย (Tourism Capital of Asia) ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น