การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากอันดับหรือดัชนีต่างๆที่ปรับเพิ่มขึ้น
โดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ได้เปิดเผยรายงานการประเมินผลดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2561 โดยประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 7 อันดับ จากอันดับที่ 51 ในปีที่แล้วมาเป็นอันดับที่ 44 ในปีนี้ จากทั้งหมด 126 ประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยยังถูกจัดให้เป็นผู้นำในหลายด้าน เช่น การส่งออกสินค้าสร้าง สรรค์ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 6 การส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง อันดับที่ 8 และการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตร อันดับที่ 11 นอกจากนี้ WIPO และหน่วยงานที่ร่วมกันจัดทำรายงานฉบับนี้ได้ระบุด้วยว่า ไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศ ที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านนวัตกรรม
ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ส่งเสริม คุ้มครอง การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ และป้องกันปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น และบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา
และนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ได้เน้นย้ำเสมอว่า ต้องการให้คนไทยเรียนรู้ที่จะพัฒนานวัตกรรม โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์เข้ามาประยุกต์ใช้ รวมทั้งคำนึงถึงความต้องการของตลาดเพื่อให้เกิดการผลิตที่ตอบสนองผู้บริโภคได้ ที่สำคัญคือนักวิจัยจะต้องช่วยคิดค้นผลงานที่ตอบโจทย์ช่วยเหลือ ผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน ให้สามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตนได้โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
ขณะเดียวกัน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร ได้รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในประเทศไทยปีนี้ พบว่า เป็นผลการสำรวจดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรอบหลายปีนี้ โดยระดับดัชนีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 (ก.ค.-ธ.ค. 2560) เพิ่มขึ้นจากระดับ 14 เป็น 34 หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20 ระดับ
ด้านระดับดัชนีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 (ม.ค.-มิ.ย. 2561) เพิ่มขึ้นจากระดับ 34 เป็น 36 หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2 ระดับ ขณะที่มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือครึ่งหลังปี 2561 (ก.ค.-ธ.ค. 2561) จากปัจจุบันอยู่ระดับ 36 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 40 หรือปรับเพิ่มขึ้น 4 ระดับ ซึ่งเจโทรจะมีการแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งปลายเดือนนี้
ดัชนีที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในประเทศไทย โดยเจโทรย้ำว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยแต่อย่างใด
ข่าวเด่น