อายุที่เพิ่มมากขึ้น มักเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของผิวพรรณ เมื่อก้าวเข้าสู่วัยเลข 3 หรือเลข 4 ปลายๆ ความหย่อนคล้อยก็ดูจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สาวๆ ขาดความมั่นใจ ผิวพรรณที่หย่อนคล้อยยิ่งทำให้ดูมีอายุมากขึ้น การบำรุงใส่ใจและดูแลผิวตั้งแต่วันนี้ เช่น การเติมความกระชับและสร้างคอลลาเจนให้กับผิวถือ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ผิวกลับมาสดใส
พญ.กาญจนา เสริมสวรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลกรุงเทพกล่าวว่า ผิวหนังของคนเรามีเนื้อเยื่อและเส้นใยเป็นตัวพยุงผิว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นโครงที่เป็นตัวพยุงจะไม่แข็งแรงเท่าเดิม ผิวชั้นลึกสุดที่มีชื่อว่า SMAS ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อและยึดไขมันไว้ เมื่อเกิดความหย่อนคล้อยจะส่งผลให้ผิวในชั้นที่ตื้นกว่าหย่อนคล้อยไปด้วย
ความเสื่อมของผิวมาจาก 2 ปัจจัยหลักได้แก่ 1.ปัจจัยภายในร่างกายได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การสร้างสารประกอบในผิวหนังลดลง ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจน อิลาสติน 2.ปัจจัยภายนอกร่างกายได้แก่ สิ่งแวดล้อม อาทิ แสงแดดที่มีรังสียูวีเอ ไปกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นตัวการทำลายเซลล์ผิวหนัง ชั้นเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสติน ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดความหย่อนคล้อย รวมถึงมลภาวะเป็นพิษ ฝุ่นละออง ควันจากท่อไอเสีย ควันบุหรี่ รวมถึงไลฟ์สไตล์ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การได้รับสารอาหารจากอาหารที่รับประทานไม่เพียงพอ ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมก่อนวัย การพักผ่อน เพราะหากนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะขาดโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่ช่วยในเรื่องความอ่อนเยาว์ ซึ่งจะหลั่งในขณะหลับ
และสุดท้ายคือ ความเครียด ที่จะส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ หากเครียดเรื้อรังเซลล์ผิวหนังจะเสื่อมลงและเกิดความหย่อนคล้อยในที่สุด จุดที่แสดงให้เห็นถึงความหย่อนคล้อยได้ชัดเจน ได้แก่ คิ้ว เปลือกตา แก้ม คาง คอ การปรับความหย่อนคล้อยด้วย Ulthera หรือ Ultherapy เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง เฉพาะเจาะจงยิงลงไปตรงตำแหน่งของผิวหนังที่ต้องการ พลังงานจะลงลึกไปถึงชั้นใต้ผิวหนังไปยังรอยต่อของชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนหรือ Smas ทำให้เกิดการหดตัวขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร ส่งผลให้ดึงคอลลาเจนของผิวชั้นบนให้กระชับมากขึ้น ผิวที่หย่อนคล้อยเกิดความกระชับอย่างเห็นได้ชัด ข้อดีของ ULTHERA คือ เป็นการยกกระชับผิวอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เสริมสร้างคอลลาเจนแบบ Rebuild & Repair กระตุ้นให้เกิดการสร้างใหม่และซ่อมแซมของเดิม ผิวกระชับ เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ใช้เวลาในการทำเพียง 30-60 นาที เห็นผลยาวนานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยก่อนทำ 1 สัปดาห์ควรงดนวดหน้า และหลังการทำในช่วง 2 วันแรกอาจรู้สึกระบมเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ผู้ที่ไม่เหมาะกับ ULTHERA คือ ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดถาวร หรือ Pacemaker และผู้ป่วยที่กินยาแก้อักเสบติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
พญ.กาญจนา กล่าวเสริมว่านอกจากนี้คอลลาเจน(Collagen) ก็มีความสำคัญสำหรับผิวเช่นกัน คอลลาเจนคือ โปรตีนเนื้อเยื่อเส้นใยที่ร่างกายมนุษย์สร้างได้เองตามธรรมชาติ มีหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและความหยืดหยุ่นให้กับอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หากคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองลดลงตามวัย ประกอบกับปัจจัยต่างๆ ในชีวิตที่มีส่วนในการทำร้ายคอลลาเจน การผลิตคอลลาเจนก็จะลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นการเสริมสร้างคอลลาเจนจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะเป็นการช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ตัวการทำร้ายคอลลาเจน ปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนเกิดการสลายตัว ได้แก่ อายุ คอลลาเจนเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น เพราะเซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนเสื่อมลง แสงแดดโดยเฉพาะรังสี UVA มีคลื่นยาวลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้จึงทำลายคอลลาเจนและทำให้เกิดริ้วรอย มลภาวะ ทั้งฝุ่นละออง ควันพิษที่ต้องพบในแต่ละวัน ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวไปเรื่อยๆ ความเครียด ทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอล ฮอร์โมนที่ไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง การสูบบุหรี่ที่สารนิโคตินจะไปรบกวนการสร้างคอลลาเจน การกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Thermage จะเป็นการใช้คลื่นวิทยุส่งผ่านความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ส่วนที่ลึกที่สุดของผิวเพื่อกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มีอยู่เดิมให้สร้างใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวหน้าแน่น กระชับ เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง และลดริ้วรอย ซึ่งเหมาะกับคนที่ไขมันบริเวณหน้าค่อนข้างเยอะ ไม่ทิ้งริ้วรอยและแผลเป็น
ข้อดีของการทำ THERMAGE ผิวตึงกระชับทันทีหลังทำและเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนที่ 2 และชัดเจนมากในเดือนที่ 6 ใช้เวลาในการทำเพียง 30-60 นาที เห็นผลนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะผิว การใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร และการบำรุงผิวในแต่ละบุคคล ไม่เกิดริ้วรอยและแผลเป็นหลังทำ และสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติใช้ชีวิตประจำวันได้ดังเดิม ผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ THERMAGE ได้แก่ ผู้ป่วยตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยที่ใส่สายสวนหัวใจ และผู้ป่วยที่มีโลหะในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงจากการทำ Thermage คือ อาจเกิดผื่นในจุดที่ทำหรือบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ ประสบการณ์แพทย์ เครื่องมือจากโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานในระดับสากล เพื่อความมั่นใจตลอดการรักษา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-310-3004 02-755-1004 หรือโทร. 1719
ข่าวเด่น