ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศยังมีข้อจำกัด ดังนั้น เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีอากรให้ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศ กรมสรรพากรจึงได้ศึกษาหลักการกฎหมายของประเทศต่างๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่นเกาหลี อังกฤษ และประเทศในสหภาพยุโรปอีกหลายประเทศ ซึ่งกำหนดให้ผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศมาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเว็บไซต์ และเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกับผู้ประกอบการภายในประเทศ
กรมสรรพากรจึงได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรฯ โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลแพลตฟอร์มในต่างประเทศ ที่มีรายได้จากการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยื่นแบบแสดงรายการภาษี และนำส่งภาษีให้แก่กรมสรรพากรผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการสากลที่ทั่วโลกปฏิบัติ”
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปว่า “มาตรการดังกล่าวจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพและสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีอากรให้ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศ และคาดว่าจะจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ3,000ล้านบาท”
ข่าวเด่น