การค้า-อุตสาหกรรม
รัฐ-เอกชน ช่วยประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม


เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น  ทำให้หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน  เตรียมรับมือและหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจที่ประสบภัย 

 

   

      

โดยนายสมชาย   หาญหิรัญ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจความเสียหายของโรงงานต่างๆ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก    เพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือทันที   รวมถึงเตือนโรงงานที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเคมีเคมีภัณฑ์ และโรงงานที่มีเครื่องจักร ให้เตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วม   ส่วนแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ   คงต้องรอดูประเมินความเสียหายก่อน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมแนวทางช่วยเหลือไว้อยู่แล้ว เป็นมาตรการเดิมที่เคยมีอยู่

 

        

 

ด้าน นายสุพันธุ์  มงคลสุธี  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (...)  กล่าวว่า  ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในประเทศอย่างใกล้ชิด  โดย ...ได้ให้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 45 กลุ่มติดตามสถานการณ์   โดยเฉพาะข้อมูลจากภาครัฐ เช่น ปริมาณน้ำในเขื่อนแต่ละพื้นที่ โดยสิ่งที่น่ากังวล คือ ภาคเกษตร บ้านเรือนประชาชน และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี  ที่อยู่นอกพื้นที่อุตสาหกรรม เนื่องจากไม่มีมาตรการรับมือเหมือนโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม

ซึ่งแม้ขณะนี้ยังไม่เสียหายมากนัก  จึงไม่กระทบกับเศรษฐกิจ  แต่ต้องติดตาม โดยประเมินว่า สถานการณ์น่าจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงเท่ากับมหาอุทกภัยเมื่อปี 54  เนื่องจากปริมาตรน้ำในเขื่อนที่สูงนั้น  อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แตกต่างจากปี 54 ที่ผลกระทบเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง   ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของหลายนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก   รวมถึงการคาดการณ์จำนวนพายุที่จะเข้ามาในช่วงฤดูฝนที่เหลือของปีนี้จะไม่มากเท่ากับในช่วงเดียวกันของปี 54

 

 

ขณะที่ ..รื่นวดี   สุวรรณมงคล   อธิบดีกรมบังคับคดี   เปิดเผยว่า  ขณะนี้กรมบังคับคดีจัดโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ชั้นบังคับคดีให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่   เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระให้กับลูกหนี้ ที่อาจประสบปัญหาขาดรายได้ หรือมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อยังชีพ   หรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด  โดยลูกหนี้สามารถติดต่อเพื่อขอไกล่เกลี่ยหนี้ชั้นบังคับคดีได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตามช่องทางที่สะดวก เช่น ติดต่อได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี /สายด่วนกรมบังคับคดี หมายเลข 1111 กด 79 หรือติดต่อด้วยตัวเองที่สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ        

โดยเงื่อนไขในการช่วยเหลือ  ต้องเป็นลูกหนี้ที่เดือดร้อนจริงและมั่นใจว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ และอยู่ในจังหวัดที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมเท่านั้น   เบื้องต้นจังหวัดสกลนคร  นครพนม   เพชรบุรี กาญจนบุรี    ซึ่งคาดว่าจะมีลูกหนี้ที่เข้าข่ายต้องให้ความช่วยเหลือหลักหมื่นราย

 

cr.bcc.com

 

สำหรับกระบวนการช่วยเหลือนั้น กรมบังคับคดีจะเป็นตัวกลางนัดเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงินเจ้าหนี้   เพื่อผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปตามความเหมาะสม   ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากเจ้าหนี้และสถาบันเจ้าการเงินเจ้าหนี้เป็นอย่างดี โดยในปี 2560   ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยหนักในจังหวัดสกลนคร สงขลาสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช  สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้สำเร็จ 451 ราย ทุนทรัพย์ 190 ล้านบาทหรือสำเร็จร้อยละ 87.40 และต้นปี 2561  ไกล่เกลี่ยหนี้ ที่จังหวัดปัตตานีและสุราษฎร์ธานี สำเร็จ รวม 433 ราย   ทุนทรัพย์ 87 ล้านบาท  หรือสำเร็จร้อยละ  88.37


LastUpdate 09/08/2561 10:30:45 โดย : Admin
16-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 16, 2025, 2:55 pm