กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ฟันธงตลาดรับสร้างบ้านช่วงครึ่งปีหลังโงหัว รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว เชื่อภาคส่งออก ท่องเที่ยว การลงทุนระบบสาธารณูปโภค อีอีซี ดันเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง เตือนรับมือปัจจัยลบจากสงครามทางการค้า และดอกเบี้ยทะยาน

นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเข้าสู่ช่วงการสร้างบ้านและมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งด้านการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ และโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรือ อีอีซี รวมถึงกระแสการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในต้นปี 2562 ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าและปีต่อไปได้ โดยคาดว่าจีดีพีของประเทศปีนี้จะเติบโตได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 4.5-4.8% ซึ่งจะส่งผลดีกับธุรกิจ การลงทุน และภาคอสังหาฯ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อหรือปลูกสร้างบ้านของผู้บริโภคได้
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบอยู่บ้างที่ต้องคอยติดตาม ทั้งความเสี่ยงเรื่องของสงครามทางการค้าที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงเรื่องภาวะดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนธุรกิจที่ทำให้ผู้ปลูกสร้างบ้านมีภาระมากขึ้น รวมถึงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐที่อยู่ระหว่างดำเนินการหลายโครงการ ที่จะส่งผลให้วัสดุก่อสร้างปรับราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาเริ่มปรับขึ้นเฉลี่ย 3-5% และจะต่อเนื่องไปถึงเรื่องของค่าแรงงานที่จะปรับสูงขึ้น และปัญหาแรงงานตึงตัวตามลำดับ
นายสุธี กล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านมาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.คุณภาพงานและวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง 2.ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัท 3.ดีไซน์แบบบ้านและพื้นที่ใช้สอยครบตามความต้องการ และ 4. ราคาบ้านต่อตารางเมตร ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยที่กล่าวมานี้ลูกค้าจะให้น้ำหนักในข้อใดมากกว่ากันขึ้นอยู่กับงบประมาณของลูกค้า
ในส่วนของการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง กลุ่มบริษัทฯ ยังคงเน้นกลยุทธ์เชิงนโยบายเรื่องคุณภาพของงานก่อสร้างเป็นหลัก เพราะการสร้างบ้านถือเป็นการลงทุนระยะยาว และการสร้างประสบการณ์สร้างบ้านที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งในเรื่องคุณภาพของงานก่อสร้างและการบริการที่ดีมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกค้าแนะนำลูกค้าด้วยกันแบบปากต่อปาก ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุด
กลุ่มบริษัทฯเน้นเรื่องของการสื่อสารทางตรงไปยังกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากการจัดกิจกรรมหลักอย่าง “Site Seeing สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน” รวมถึงการร่วมออกบูธแสดงสินค้าต่างๆ ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องนั้น ในปีนี้ยังได้ทุ่มงบทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อ Marketing Online ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุด ได้ปล่อยหนังโฆษณาชุดใหม่ของแบรนด์ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” ภายใต้สโลแกน “คิดจากใจ สร้างจากเรา สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” โดยได้ออกอากาศและเผยแพร่ผ่านทางสื่อทีวี และสื่อ Social Media อาทิ Facebook และ Youtube ไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ในปัจจุบันนิยมรับข่าวสารผ่านการใช้งานทางสื่อออนไลน์มากขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังกลุ่มบริษัทฯ ได้พัฒนาแบบบ้านของแบรนด์ “บิวท์ ทู บิวด์” โดยได้ดีไซน์รูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ ในสไตล์ Classic Contemporary ราคาประมาณ 39 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคตลาดบ้านหรูระดับลักเชอรี่ (Luxury) เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและมีความพร้อมในการปลูกสร้างบ้าน รวมถึงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ยังได้พัฒนาแบบบ้านใหม่ของ “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” ราคาประมาณ 6 – 10 ล้านบาท โดยจะนำมาแสดงและเปิดตัวครั้งแรกในงานออกบูธมหกรรมรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2018 วันที่ 16 – 19 ส.ค. 61 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ข่าวเด่น