บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย เตรียมขยายสาขาต่างประเทศเพิ่มอีกเท่าตัว โดยจะเพิ่มสาขาในราชอาณาจักรกัมพูชาจาก 6 สาขา เป็น 12 และในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จาก 1 สาขาเป็น 3 สาขา แจ้งพร้อมดำเนินธุรกิจในสหภาพเมียนมาร์ทันทีที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ เป็นไปตามแผนธุรกิจในการเพิ่มสัดส่วนรายได้ในประเทศกับต่างประเทศให้ได้50:50 ภายในปี พ.ศ. 2563 เผยตลาดในประเทศครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากราคาผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าเกษตรน่าจะปรับไปในทิศทางบวก ซึ่งจะทำให้การใช้จ่ายในประเทศกระเตื้องสูงขึ้น เนื่องจากในครึ่งปีแรกภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยวเติบโตดี แต่ภาคเกษตรราคาพืชผลยังปรับตัวไม่สูงนัก

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า ตามแผนธุรกิจที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในประเทศและจากต่างประเทศเป็น 50:50 ภายในปี พ.ศ. 2563 ขณะนี้ TK มีแผนจะขยายสาขาในประเทศราชอาณาจักรกัมพูชาจากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 สาขามาเป็น 12 สาขาและในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจาก 1สาขามาเป็น 3 สาขา ภายในสิ้นปี 2561 โดยในขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

“ปัจจุบันสัดส่วนลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์จากในประเทศและจากต่างประเทศของ TK ที่93 : 7 การจะให้ได้ตามเป้าหมาย เราจะต้องเร่งขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งสาขาต่างประเทศจะเกิดขึ้นทั้งในรูปของการเพิ่มสาขาในแต่ละประเทศที่ TK กำลังดำเนินธุรกิจอยู่ในปัจจุบัน และในรูปของการเพิ่มจำนวนประเทศในการดำเนินกิจการ โดยปัจจุบัน TKได้เข้าไปดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมาร์ ในขณะเดียวกัน เรายังมองหาโอกาสที่จะเข้าไปในตลาดใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับการลงทุน และจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อการดำเนินกิจการของ TK” นางสาวปฐมา กล่าว 

ทางด้าน นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่แผนขยายสาขาเกิดขึ้นอย่างเด่นชัดในประเทศราชอาณาจักรกัมพูชาเพราะตลาดมีการตอบรับ TK อย่างดี เศรษฐกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง ประชากรเพิ่มขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราสูง ส่งผลต่อการใช้จ่ายในประเทศ และภาคส่งออกของกัมพูชามีการเจริญเติบโตดี อีกทั้งเพิ่งมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นไป ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) น่าจะมีเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีน อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากภาครัฐที่สนับสนุนภาคธุรกิจในการขยายกิจการ ทำให้สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของการขยายสาขาใน สปป.ลาว TK ขยายสาขาตามลักษณะของตลาดและสอดคล้องกับแนวนโยบายของทางการ สปป.ลาว ซึ่งไม่อยากให้ผู้บริโภคมีภาระหนี้สูง แต่แนวโน้มสัดส่วนการเช่าซื้อจักรยานยนต์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากในอดีตที่มีเพียง 20% ของการซื้อจักรยานยนต์ทั้งหมด มาอยู่ที่ 40% ซึ่งในอนาคตน่าจะอยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกับประเทศไทยที่ 80%

นายประพลกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมาธุรกิจในต่างประเทศของ TK มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย ลูกหนี้เช่าซื้อใน 2 ประเทศ ทั้งกัมพูชาและลาว เติบโต 54% คือเพิ่มขึ้นจาก 399 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 เป็น 612 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ คิดเป็น 7%ของลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งหมด และมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจในทั้ง 2 ประเทศ โดยครึ่งปีแรกของปี 2561 สามารถทำกำไรได้ 50 ล้านบาท

“สำหรับตลาดในประเทศ ครึ่งปีหลังของปี 2561 คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากราคาผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าเกษตรน่าจะเป็นไปในทิศทางบวก ซึ่งจะทำให้การใช้จ่ายในประเทศกระเตื้องสูงขึ้น เนื่องจากในครึ่งปีแรกภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยวเติบโตดี แต่ภาคเกษตรราคาพืชผลยังไม่ปรับตัวสูงนัก โดยในครึ่งปีแรกรายได้เติบโตประมาณ 8% จาก 1,778 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 1,924 ล้านบาทในปี 2561 และมั่นใจจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% ในสิ้นปี 2561 นี้” นายประพลกล่าวทิ้งท้าย